PART 14

 

Al-Hijr

ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปรานี

[15:1]

อะลีฟ ลาม รอ เหล่านี้คือโองการทั้งหลายแห่งคัมภีร์ และเป็นกรุอานอันชัดแจ้ง

 

[15:2]

บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาหวังกันว่า หากพวกเขาได้เป็นมุสลิม

 

[15:3]

เจ้าจงปล่อยพวกเขาบริโภคและร่าเริงและความหวังจะทำให้พวกเขาลืมแล้วพวกเขาก็จะรู้

 

[15:4]

เรามิได้ทำลายเมืองใด นอกจากว่าได้มีกำหนดเป็นที่รู้กันแก่มันแล้ว

 

[15:5]

ไม่มีประชาชาติใดจะร่าเริงกำหนดการลงโทษได้และไม่อาจจะทำให้ล่าช้ากว่ากำหนดได้

 

[15:6]

และพวกเขากล่าวว่า โอ้ผู้ซึ่งข้อตักเตือนถูกประทานแก่เขาแท้จริงท่านเป็นคนบ้าอย่างแน่นอน

 

[15:7]

ทำไมท่านไม่นำมลาอิกะฮ์มาที่เรา หากท่านอยู่ในหมู่ผู้สัตย์จริง

 

[15:8]

เราจะไม่ส่งมลาอิกะฮ์ลงมา เว้นแต่ด้วยความจริง และดังนั้นพวกเขาไม่ต้องคอย

 

[15:9]

แท้จริงเราได้ให้ข้อตักเตือน (อัลกุรอาน) ลงมา และแท้จริงเราเป็นผุ้รักษามันอย่างแน่นอน

 

[15:10]

และโดยแน่นอน ก่อนหน้าเจ้านั้นเราได้ส่ง (บรรดาร่อซู้ล) มาในหมู่คณะต่างๆ เมื่อครั้งสมัยก่อน ๆ

 

[15:11]

และไม่มีร่อซู้ลคนใดมายังพวกเขา เว้นแต่พวกเขาจะต้องเย้ยหยัน

 

[15:12]

ในทำนองนั้น เราได้ทำให้มันอยู่ในจิตใจของพวกอาชญากร

 

[15:13]

พวกเขาจะไม่ศรัทธาต่ออัลกุรอาน และแน่นอนแบบอย่างของคนรุ่นก่อน ๆ ได้ล่วงลับไปแล้ว

 

[15:14]

และหาเราเปิดประตูแห่งชั้นฟ้าแก่พวกเขา แล้วพวกเขาจะขึ้นต่อไปเรื่อยๆ

 

[15:15]

แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่า แท้จริงสายตาของพวกเราถูกปิดกั้น ไม่แต่เพียงเท่านั้นพวกเรายังเป้นกลุ่มชนที่ถูกเวทมนตร์อีกด้วย

 

[15:16]

และโดยแน่นอน เราให้มีหมู่ดวงดาวในท้องฟ้าและเราได้ประดับมันให้สวยงามแก่บรรดาผู้เฝ้ามอง

 

[15:17]

และเราได้รักษามันให้พ้นจากชัยตอนทุกตัวที่ถูกสาปแช่ง

 

[15:18]

เว้นแต่ผู้ที่แอบฟังดังนั้นดวงดาวที่ลุกโชติช่วงจะตามติดเผามัน

 

[15:19]

และแผ่นดินนั้นเราได้แผ่มันออกไป และเราได้ทำให้มีเทือกเขาเป็นที่ยึดอย่างมั่นคง และเราได้ให้ทุกสิ่งงอกเงยอย่างสมดุล

 

[15:20]

และในแผ่นดินนั้นเราได้ทำให้มีเครื่องยังชีพแก่พวกเจ้า และแก่ผู้ที่พวกเจ้ามิได้เป็นผู้ให้ริซกีแก่เขา

 

[15:21]

และไม่มีสิ่งใด (เครื่องยังชีพ) เว้นแต่ที่เรานั้นมีคลังของมัน และเราจะไม่ให้มันลงมานอกจากตามสภาวะที่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว

 

[15:22]

และเราได้ส่งลมผสมเกสร แล้วเราได้ให้น้ำลงมาจากฟ้า แล้วเราได้ให้พวกเจ้าดื่มมัน และพวกเจ้าก็มิได้เป็นผู้สะสมมันไว้

 

[15:23]

และโดยแน่นอนเราเป็นผู้ให้ชีวิต และเราเป็นผู้ให้ตาย และเราเป็นผู้คงอยู่แต่ผู้เดียว

 

[15:24]

และโดยแน่นอน เรารอบรู้กลุ่มชนก่อนพวกเจ้า และโดยแน่นอนเรารอบรู้กลุ่มชนรุ่นหลัง

 

[15:25]

และแท้จริง พระเจ้าของเจ้าคือผู้ทรงชุมนุมพวกเขา แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงปรีชาญาณผู้ทรงรอบรู้

 

[15:26]

และโดยแน่นอน เราได้สร้างมนุษย์จากดินแห้ง จากดินดำเป็นตม

 

[15:27]

และญินนั้น เราได้สร้างมันมาก่อนจากไฟของลมร้อน

 

[15:28]

และจงรำลึกเมื่อพระเจ้าของเจ้าตรัสแก่มลาอิกะฮ์แก่ แท้จริงข้าเป็นผู้สร้างมนุษย์จากดินแห้ง จากดินดำเป็นตม

 

[15:29]

ดังนั้น เมื่อข้าได้ทำให้เขามีรูปร่างสมส่วนและเป่าวิญญาณจากข้าเข้าไปในตัวเขา ฉะนั้นพวกเจ้าจงก้มลงสุญูดต่อเขา

 

[15:30]

ดังนั้น มลาอิกะฮ์ทั้งหมดได้ก้มลงสุญูด

 

[15:31]

เว้นแต่อิบลีสมันปฏิเสธที่จะอยู่ร่วมกับบรรดาผู้สุญูด

 

[15:32]

พระองค์ตรัสว่า โอ้อิบลีส ทำไมเจ้าจึงไม่อยู่ร่วมกับบรรดาผู้สุญูด ?

 

[15:33]

มันกล่าวว่า ข้าพระองค์จะไม่สุญูดต่อมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้างเขาจากดินแห้ง จากดินดำเป็นตม

 

[15:34]

พระองค์ตรัสว่า ดังนั้นเจ้าจงออกไปจากที่นี่แท้จริงเจ้าเป็นผู้ถูกขับไล่

 

[15:35]

และแท้จริง การสาบแช่งจงประสบแก่เจ้า จนกระทั่งวันแห่งการตอบแทน

 

[15:36]

มันกล่าวว่า โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์ได้โปรดประวิงเวลาให้แก่ข้าพระองค์จนถึงวันฟื้นคืนชีพด้วยเถิด

 

[15:37]

พระองค์ตรัสว่า ดังนั้น แท้จริงเจ้าอยู่ในหมู่ผู้ถูกประวิงเวลา

 

[15:38]

จนกระทั่งถึงวันแห่งเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว

 

[15:39]

มันกล่าวว่า โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์โดยที่พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์หลงผิดไปแล้วแน่นอน ข้าพระองค์ก็จะทำให้เป็นที่เพริศแพร้วแก่พวกเขาในแผ่นดินนี้ และแน่นอนข้าพระองค์จะทำให้พวกเขาทั้งหมดหลงผิด

 

[15:40]

เว้นแต่ปวงบ่าวของพระองค์ ในหมู่พวกเขาที่มีใจบริสุทธิ์เท่านั้น

 

[15:41]

พระองค์ตรัสว่า นี่คือทางอันเที่ยงธรรมของข้า

 

[15:42]

แท้จริงปวงบ่าวของข้าเจ้าจะไม่มีอำนาจใด ๆ เหนือพวกเขา เว้นแต่ผู้ที่เชื่อฟังเจ้าในหมู่ผู้หลงผิดเท่านั้น

 

[15:43]

และแท้จริงนรกญะฮันนัม แน่นอนคือสัญญาของพวกเขาทั้งหมด

 

[15:44]

มันมีเจ็ดประตู สำหรับทุกประตูมีส่วนที่ถูกจัดไว้แล้ว

 

[15:45]

แท้จริง บรรดาผู้ยำเกรงอยู่ในสวนสวรรค์มากหลาย และตาน้ำพุ

 

[15:46]

พวกเจ้าจงเข้าไปในนั้นด้วยความศานติและปลอดภัย

 

[15:47]

และเราได้ขจัดความขุ่นแค้นที่มีอยู่ในหัวอกของพวกเขาให้กลายเป็นพี่น้องกัน โดยพำนักอยู่บนเตียงหันหน้าเข้าหากัน

 

[15:48]

ความเหนื่อยยากจะไม่ประสบแก่พวกเขาในนั้น และพวกเขาจะไม่ถูกนำออกจากที่นั้น

 

[15:49]

จงแจ้งแก่ปวงบ่าวของข้าว่า แท้จริงข้าคือผู้อภัย ผู้เมตตาเสมอ

 

[15:50]

และแท้จริงการลงโทษของข้านั้น เป็นการลงโทษที่เจ็บแสบ

 

[15:51]

และจงแจ้งพวกเขาให้ทราบถึงบรรดาแขกของอิบรอฮีม

 

[15:52]

เมื่อพวกเขาเข้าไปหาเขา (อิบรอฮีม) แล้วกล่าวว่า ศานติ เขากล่าวว่า แท้จริงเรากลัวพวกท่าน

 

[15:53]

พวกเรากล่าวว่า ท่านอย่ากลัว แท้จริงเราขอแจ้งข่าวดีแก่ท่าน เกี่ยวกับเด็กคนหนึ่งที่มีความรู้

 

[15:54]

เขากล่าวว่า พวกท่านมาแจ้งข่าวดีแก่ฉันเมื่อความชราภาพได้ประสบแก่ฉันแล้วกระนั้นหรือ? แล้วเรื่องอะไรเล่าที่พวกท่านจะแจ้งข่าวดีแก่ฉัน!?

 

[15:55]

พวกเขากล่าวว่า เราขอแจ้งข่าวดีแก่ท่านด้วยความจริง ดังนั้นท่านอย่าอยู่ในหมู่ผู้สิ้นหวัง

 

[15:56]

เขากล่าวว่า และจะไม่มีผู้ใดที่สิ้นหวังในพระเมตตาของพระเจ้าของเขา นอกจากพวกหลงผิด

 

[15:57]

เขากล่าวว่า ดังนั้น ธุระอันใดเล่าของพวกท่าน โอ้ทูตทั้งหลาย !?

 

[15:58]

พวกเขากล่าวว่า แท้จริงเราถูกส่งมายังกลุ่มชนผู้ทำผิด

 

[15:59]

นอกจากบริวารของลูฏ แท้จริงเราจะเป็นผู้ช่วยพวกเขาให้รอดทั้งหมด

 

[15:60]

เว้นแต่ภริยาของเขา เราได้กำหนดไว้แล้วว่า แท้จริงนางจะอยู่ในหมู่ผู้ล่วงไปแล้ว

 

[15:61]

ครั้นเมื่อพวกทูตได้มายังบริวารของลูฏ

 

[15:62]

เขา (บริวารของลูฏ) กล่าวว่า แท้จริงพวกท่านเป็นกลุ่มชนที่ไม่คุ้นหน้า

 

[15:63]

พวกเขากล่าวว่า แต่ว่าเรามาหาท่าน (ลูฏ) ด้วยเรื่องที่พวกเขาสงสัยกันอยู่

 

[15:64]

และเรามาหาท่านด้วยเรื่องจริงและแท้จริงเราเป็นผู้ซื่อสัตย์อย่างแน่นอน

 

[15:65]

ดังนั้น ท่านจงเดินทางไปกับครอบครัวของท่าน ในช่วงเวลากลางคืน และจงตามหลังพวกเขา และอย่าให้ผู้ใดในหมู่พวกท่านเหลียวหลัง และจงเดินต่อไปตามที่พวกท่านถูกบัญชา

 

[15:66]

และเราได้แจ้งแก่เขาถึงเรื่องนั้นว่า คนสุดท้ายของพวกเหล่านี้จะถูกตัดขาดในยามเช้า

 

[15:67]

และชาวเมืองได้มาหาอย่างดีใจ

 

[15:68]

เขา (ลูฎ) กล่าวว่า แท้จริง เขาเหล่านั้นคือแขกของฉัน ดังนั้น พวกท่านอย่าทำให้ฉันอัปยศ

 

[15:69]

และจงยำเกรงอัลลอฮ์ และอย่าทำให้ฉันได้รับความละอาย

 

[15:70]

พวกเขากล่าวว่า และเรามิได้ห้ามท่านเกี่ยวกับการต้อนรับแขกดอกหรือ?

 

[15:71]

ลูฏกล่าวว่า เขาเหล่านี้คือลูกสาวของฉันหากพวกท่านจำเป็นต้องกระทำ?

 

[15:72]

ขอสาบานด้วยชีวิตของเจ้าแน่นอนแท้จริงพวกเขาอยู่ในการมึนเมาหลงทาง

 

[15:73]

ดังนั้น เสียงกัมปนาทได้คร่าพวกเขาเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น

 

[15:74]

แล้วเราได้พลิกกลับส่วนบนของมันเป็นส่วนล่างและได้ให้หินจากนรกหล่นลงมาทับพวกเขา

 

[15:75]

แท้จริงในการนั้น แน่นอนเป็นสัญญาณแก่บรรดาผู้พินิจพิเคราะห์

 

[15:76]

และแท้จริง มัน (สถานที่นั้น) ยังคงเป็นเส้นทางที่พักอาศัยอย่างแน่นอน

 

[15:77]

แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณแก่บรรดามุอ์มิน

 

[15:78]

และกระนั้นก็ดี ชาวอัลอัยกะฮ์เป็นผู้อธรรมอย่างแน่นอน

 

[15:79]

ดังนั้นเราได้ลงโทษพวกเขาและแท้จริงทั้งสองพวก อยู่บนเส้นทางที่ชัดแจ้งอย่างแน่นอน

 

[15:80]

และโดยแน่นอน ชาวอัลฮิจร์ได้ปฏิเสธบรรดาร่อซู้ล

 

[15:81]

และเราได้ให้สัญญาณต่างๆ ของเราแก่พวกเขา แล้วพวกเขาก็ผินหลังให้มัน

 

[15:82]

และพวกเขาได้สะกัดภูเขาเป็นบ้านพักอย่างปลอดภัย

 

[15:83]

ดังนั้น เสียงกัมปนาทได้คร่าชีวิตพวกเขาในยามเช้า

 

[15:84]

ฉะนั้น สิ่งที่พวกเขากระทำเอาไว้ ไม่ให้ประโยชน์แก่พวกเขาได้เลย

 

[15:85]

และเรามิได้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองนั้น เพื่ออื่นใดเว้นแต่เป็นความจริง และแท้จริงวันกิยามะฮ์จะมีมาอย่างแน่นอน ดังนั้นเจ้าจงอภัยด้วยการอภัยที่ดี

 

[15:86]

แท้จริงพระเจ้าของเจ้า (มุฮัมมัด) ผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงรอบรู้

 

[15:87]

และโดยแน่นอน เราได้ให้แก่เจ้าเจ็ดอายาตที่ถูกอ่านซ้ำและอัลกุรอานที่ยิ่งใหญ่

 

[15:88]

อย่าทอดสายตาทั้งสองของเจ้าไปยังชนชั้นต่างๆ ของพวกเขา และอย่าเสียใจแทนพวกเขาและจงลดปีของเจ้าให้ต่ำต่อบรรดาผู้ศรัทธา

 

[15:89]

และมุฮัมมัดจงกล่าวเถิดว่า แท้จริงฉันเป็นผู้ตักเตือนอย่างชัดแจ้ง

 

[15:90]

เช่นเดียวกับที่เราได้ให้แก่พวกแบ่งการศรัทธา

 

[15:91]

(คือ) บรรดาผู้แบ่งแยกอัลกุรอานเป็นส่วน ๆ

 

[15:92]

ดังนั้น ของสาบานด้วยพระเจ้าของเจ้าแน่นอนเราจะถามพวกเขาทั้งหมด

 

[15:93]

ถึงที่พวกเขาได้กระทำไว้

 

[15:94]

ดังนั้น จงประกาศอย่างเปิดเผยในสิ่งที่เจ้าถูกบัญชา และจงผินหลังให้พวกมุชริกีน

 

[15:95]

แท้จริง เราได้ให้ความพอเพียงแก่เจ้าต่อพวกเย้ยหยันแล้ว

 

[15:96]

(คือ) บรรดาผู้ตั้งพระเจ้าอื่นเป็นภาคีกับอัลลอฮ์ ดังนั้นพวกเขาจะรู้

 

[15:97]

และโดยแน่นอน เรารู้ว่าแท้จริงเจ้านั้นหัวอกของเจ้าอึดอัดต่อสิ่งที่พวกเขากล่าว

 

[15:98]

ดังนั้น จงกล่าวสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้า และจงร่วมอยู่ในหมู่ผู้สุญูด

 

[15:99]

และจงเคารพภักดีพระเจ้าของเจ้า จนกว่าความแน่นอน (ความตาย) จะมาหาเจ้า

 

An-Nahl

ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปรานี

[16:1]

พระบัญชา ของอัลลอฮ์ได้มาแล้ว ดังนั้นเจ้าอย่าได้เร่งมัน มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ และพระองค์ทรงสูงส่งเหนือที่พวกเขาตั้งภาคี

 

[16:2]

พระองค์ทรงส่งมะลาอีกะฮ์ลงมาพร้อมด้วยวะฮีย์ตามพระบัญชาของพระองค์ แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ จากปวงบ่าวของพระองค์โดยให้พวกเขาตักเตือนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากข้า ดังนั้นพวกเจ้าจงยำเกรงต่อข้าเถิด

 

[16:3]

พระองค์ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินด้วยความจริงพระองค์ทรงสูงส่งเหนือที่พวกเขาตั้งภาคี

 

[16:4]

พระองค์ทรงสร้างมนุษย์จากน้ำอสุจิแล้วเขาก็เป็นปรปักษ์อย่างชัดแจ้ง

 

[16:5]

และปศุสัตว์พระองค์ทรงสร้างมันในตัวมันมีความอบอุ่นสำหรับพวกเจ้าและประโยชน์มากหลาย และในส่วนหนึ่งจากมันนั้นพวกเจ้าเอามาบริโภคได้

 

[16:6]

และในตัวมันมีความสง่างามสำหรับพวกเจ้า ขณะที่มันกลับจากทุ่งหญ้าและขณะที่นำมันออกไปเลี้ยง

 

[16:7]

และมันแบกสัมภาระหนักของพวกเจ้าไปยังเมืองไกล ๆ โดยที่พวกเจ้าจะไปถึงมันไม่ได้เว้นแต่ด้วยความเหนื่อยยากลำบากใจ แท้จริงพระเจ้าของพวกเจ้านั้นเป็นผู้ทรงเอ็นดู ผู้ทรงเมตตาเสมอ

 

[16:8]

และม้า และล่อ ละลาเพื่อพวกเจ้าจะได้ขี่มันและเป็นเครื่องประดับ และพระองค์ยังทรงสร้างสิ่งอื่นๆ ที่พวกเจ้าไม่รู้

 

[16:9]

และเป็นหน้าที่เหนืออัลลอฮ์คือการชี้แนะทางที่เที่ยงตรง และจากมัน (ทางต่าง ๆ) นั้น ก็มีทางคดเคคยวและหากพระองค์ทรงประสงค์แน่นอนพระองค์ก็จะทรงชี้นำทางแก่พวกเจ้าทั้งหมด

 

[16:10]

พระองค์คือ ผู้ทรงหลั่งน้ำลงมาจากฟากฟ้าสำหรับพวกเจ้า ส่วนหนึ่งเป็นเครื่องดื่มและอีกส่วนหนึ่ง (ทำให้) พฤกษชาติ (เจริญเติบโต) เพื่อพวกเจ้าใช้เลี้ยงสัตว์

 

[16:11]

ด้วยมัน (น้ำ) พระองค์ทรงให้พืชผลและผลมะกอก และอินทผลัม และองุ่น งอกงามสำหรับพวกเจ้า และจากผลไม้อีกหลายชนิด แท้จริงในการนั้น แน่นอน ย่อมเป็นสัญญาณสำหรับกลุ่มชนที่ตึกตรอง

 

[16:12]

และพระองค์ทรงให้กลางคืนและกลางวันและดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์แก่พวกเจ้า และหมู่ดาวถูกใช้หใเป็นประโยชน์โดยพระบัญชาของพระองค์แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณมากหลาย สำหรับกลุ่มชนที่ใช้ปัญญา

 

[16:13]

และสิ่งที่พระองค์ทรงให้มีขึ้นมากมายสำหรับพวกท่านในแผ่นดินนั้น ชนิดของมันแตกต่างกันไปแท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณสำหรับกลุ่มชนผู้ใคร่ครวญ

 

[16:14]

และพระองค์คือผู้ทรงทำให้ทะเลเป็นประโยชน์ เพื่อพวกเจ้าจะได้กินเนื้อนุ่มสดจากมัน และพวกเจ้าเอาเครื่องประดับออกจากมัน สำหรับใช้ประดับราคา และเจ้าเห็นเรือแล่นฝ่าคลื่นในท้องทะเล และเพื่อพวกเจ้าจะได้แสวงหาความโปรดปรานของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบคุณ

 

[16:15]

และพระองค์ทรงให้มีเทือกเขามั่นคงในแผ่นดิน เพื่อมิให้มันสั่นสะเทือกนแก่พวกเจ้า และ (ทำให้มี) ลำน้ำและหนทาง เพื่อพวกเจ้าจะได้บรรลุสู่เป้าหมาย

 

[16:16]

เครื่องหมายต่าง ๆ และด้วยดวงดาว พวกเขาใช้นำทาง

 

[16:17]

ดังนั้น ผู้ทรงสร้างย่อมไม่เหมือนกับผู้ที่ถูกสร้าง พวกเจ้าไม่ใคร่ครวญดอกหรือ?

 

[16:18]

และหากพวกเจ้าจะนับความโปรดปรานของอัลลอฮ์ พวกเจ้าก็ไม่สามารถจะคำนวณมันได้แท้จริงอัลลอฮ์นั้น เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาอย่างแน่นอน

 

[16:19]

และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกท่านปิดบังและสิ่งที่พวกท่านเปิดเผย

 

[16:20]

และบรรดาสิ่งที่พวกเขาวิงวอนอื่นจากอัลลอฮ์นั้น พวกมันไม่ได้สร้างสิ่งใดเลย แต่พวกมันถูกสร้าง

 

[16:21]

พวกมันตาย ปราศจากชีวิต และพวกมันไม่รู้ด้วยว่า เมื่อใดจะถูกให้ฟื้นขึ้นมาอีก

 

[16:22]

พระเจ้าของพวกเจ้านั้นคือพระองค์เดียว ดังนั้น บรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อวันปรโลกหัวใจของพวกเขาปฏิเสธไม่รับรู้และพวกเขาหยิ่งผยอง

 

[16:23]

โดยแน่นอน แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขาปิดบัง และสิ่งที่พวกเขาเปิดเผยแท้จริงพระองค์มิทรงรักพวกหยิ่งผยอง

 

[16:24]

และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่า พระเจ้าของพวกเจ้าได้ประทานอะไรลงมา? พวกเขากล่าวว่า นิยายสมัยก่อน

 

[16:25]

พวกเขาจงแบกความผิดอย่างครบครันในวันกิยามะฮ์เถิด และ (จงแบก) ความผิดของบรรดาผู้ที่พวกเขาทำให้เขาเหล่านั้น หลงผิดโดยไม่รู้พึงทราบเถิด! สิ่งที่พวกเขาทำผิดนั้นชั่วช้ายิ่ง

 

[16:26]

แน่นอน บรรดาผู้ที่มาก่อนหน้าพวกเขาได้วางแผน ดังนั้น อัลลอฮ์ทำลายอาคารของพวกเขาจากรากฐาน (ของมัน) ฉะนั้นหลังคาที่อยู่เหนือพวกเขาได้หล่นลงมาทับพวกเขา และการลงโทษได้มายังพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว

 

[16:27]

แล้วในวันกิยามะฮ์พระองค์ทรงให้พวกเขาอัปยศ และตรัสว่า ไหนเล่าภาคีของข้าที่พวกเจ้าโต้เถียงกันในเรื่องของพวกเขา บรรดาผู้รู้กล่าวว่า แน่แท้ วันนี้ความอัปยศและความชั่วช้าจะประสบแก่พวกปฏิเสธศรัทธา

 

[16:28]

(คือ) บรรดาผู้ที่มลาอิกะฮ์เอาชีวิตของพวกเขา โดยที่พวกเขาอธรรมต่อตัวเอง ดังนั้นพวกเขายอมจำนน (พลางกล่าวว่า) เรามิได้กระทำความชั่วใด ๆ เปล่าเลย! แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

 

[16:29]

ดังนั้น พวกเจ้าจงเข้าประตูนรกเพื่ออยู่ในนั้นตลอดกาล ฉะนั้น ที่พำนักของพวกหยิ่งผยองมันชั่วช้ายิ่ง

 

[16:30]

และได้ถูกกล่าวแก่บรรดาผู้ยำเกรงว่า พระเจ้าของพวกเจ้าได้ทรงประทานอะไรลงมา? พวกเขากล่าวว่า ความดีทั้งนั้น สำหรับบรรดาผู้ทำดีในโลกนี้คือความดี และแน่นอนในปรโลกนั้นย่อมดีกว่า และที่พำนักของบรรดาผู้ยำเกรงนั้นช่างดีเลิศ

 

[16:31]

สวนสวรรค์ที่พำนักที่พวกเขาจะเข้าไปในนั้น มีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ณ เบื้องล่างสำหรับพวกเขาที่อยู่ในนั้นจะได้สิ่งที่ต้องการ ในทำนองนั้น อัลลอฮ์ทรงตอบแทนบรรดาผู้ยำเกรง

 

[16:32]

บรรดาผู้ที่มลาอิกะฮ์เอาชีวิตของพวกเขาโดยที่พวกเขาเป็นคนดี พลางกล่าวว่า ศานติจงมีแด่พวกเจ้า จงเข้าไปในสวนสวรรค์เนื่องจากสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้

 

[16:33]

พวกเขามิได้คอยสิ่งใด นอกจากจะให้มลาอิกะฮ์มาหาพวกเขา หรือพระบัญชาของพระเจ้าจะมาในทำนองนั้นแหละ บรรดาผู้มาก่อนหน้าพวกเขาได้กระทำ และอัลลอฮ์มิได้ทรงอธรรมต่อพวกเขา แต่พวกเขาได้อธรรมต่อตัวของพวกเขาเอง

 

[16:34]

ดังนั้น ความชั่วทั้งหลายที่พวกเขาได้กระทำไว้ ก็จะประสบแก่พวกเขา และสิ่งที่พวกเขาเคยเย้ยหยันไว้ ก็จะห้อมล้อมพวกเขา

 

[16:35]

และบรรดาผู้ตั้งภาคีดังกล่าวหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ พวกเราจะไม่เคารพบูชาผู้ใดอื่นจากพระองค์ ทั้งพวกเราและบรรพบุรุษบองพวกเราและพวกเราจะไม่ห้ามสิ่งใดอื่นจากที่พระองค์ (ทรงห้ามไว้ในทำนองนั้นแหละบรรดาผู้มาก่อนหน้าพวกเขาได้กระทำ ดังนั้น บรรดาร่อซู้ลมิได้มีหน้าที่อื่นใด นอกจากการประกาศอันชัดแจ้งเท่านั้น

 

[16:36]

และโดยแน่นอน เราได้ส่งร่อซู้ลมาในทุกประชาชาติ (โดยบัญชาว่า) พวกท่าจงเคารพภักดีอัลลอฮ์ และจงหลีกหนีให้ห่างจากพวกเจว็ด ดังนั้น ในหมู่พวกเขามีผู้ที่อัลลอฮ์ทรงชี้แนะทางให้และในหมู่พวกเขามีการหลงผิดคู่ควรแก่เขาฉะนั้น พวกเจ้าจงตระเวนไปในแผ่นดิน แล้วจงดูว่าบั้นปลายของผู้ปฏิเสธนั้นเป็นเช่นใด!

 

[16:37]

หากเจ้าห่วงใยต่อการชี้แนะทางของพวกเขา ดังนั้น แท้จริงอัลลออ์จะไม่ทรงแนะทางแก่ผู้ที่พระองค์จะให้เขาหลง และสำหรับพวกเขาจะไม่มีผู้ช่วยเหลือใด ๆ

 

[16:38]

และพวกเขาได้สาบานต่ออัลลอฮ์ พ้วยการสาบานอย่างแข็งขันว่า อัลลอฮ์จะไม่ทรงให้ผู้ตายฟื้นขึ้นมาอีก มิใช่เช่นนั้น! สัญญานั้นย่อมเป็นจริงแก่พระองค์เสมอแต่มนุษย์ส่วนมากไม่รู้

 

[16:39]

เพื่อพระองค์จะทรงชี้แจงแก่พวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกันในเรื่องนั้นและเพื่อพระองค์จะทรงให้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้รู้ว่าแท้จริงพวกเขานั้นเป็นผู้โกหก

 

[16:40]

แท้จริงเมื่อเราปรารถนาคำตรัสของเราแก่สิ่งใด เราก็จะกล่าวแก่มันว่า จงเป็น แล้วมันก็เป็นขึ้น

 

[16:41]

และบรรดาผู้ที่อพยพในเรื่องของอัลลอฮ์หลังจากที่พวกเขาถูกข่มเหงและแน่นอนเราจะให้ที่พำนักที่ดีแก่เขาในโลกนี้ และแน่นอนรางวัลของวันปรโลกนั้นยิ่งใหญ่กว่า หากพวกเขารู้

 

[16:42]

บรรดาผู้อดทน และพวกเขามอบความไว้วางใจต่อพระเจ้าของพวกเขา

 

[16:43]

และเรามิได้ส่งผู้ใดมาก่อนหน้าเจ้า นอกจากเป็นผู้ชายที่เราได้วะฮีย์แก่พวกเขา ดังนั้น พวกเจ้าจงถามบรรดาผู้รู้ หากพวกเจ้าไม่รู้

 

[16:44]

ด้วยหลักฐานทั้งหลายที่ชัดแจ้ง และคัมภีร์ต่างๆ ที่ศักดิ์สิทธิ์ และเราได้ให้อัลกุรอานแก่เจ้าเพื่อเจ้าจะได้ชี้แจง (ให้กระจ่าง) แก่มนุษย์ซึ่งสิ่งที่ได้ถูกประทานมาแก่พวกเขาและเพื่อพวกเขาจะได้ไตร่ตรอง

 

[16:45]

บรรดาผู้วางแผนชั่วร้ายทั้งหลายจะปลอดภัยกระนั้นหรือ จากการที่อัลลอฮ์จะทรงให้ธรณีสูบพวกเขาหรือการลงโทษที่จะมาหาพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว

 

[16:46]

หรือพระองค์จะทรงคร่าชีวิตพวกเขาขณะที่พวกเขาเดินทางดังนั้น พวกเขาจะไม่สามารถหักห้าม (พระองค์) ได้

 

[16:47]

หรือพระองค์พวกเขาให้ตายทีละน้อย ดังนั้น แท้จริงพระเจ้าของพวกเจ้านั้น แน่นอนเป็นผู้ทรงเอ็นดู ผู้ทรงเมตตาเสมอ

 

[16:48]

และพวกเขามิได้มองไปยังสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงสร้าง บ้างดอกหรือว่า เงาของมันจะทอดไปทางขวาและทางซ้าย เพื่อสุญูดต่ออัลลอฮ์โดยที่พวกมันนอบน้อม

 

[16:49]

และสิงที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน ที่เป็นสัตว์โลกทั้งหลายและมลาอิกะฮ์จะสุญูดต่ออัลลอฮ์ โดยที่พวกมันจะไม่หยิ่งผยอง

 

[16:50]

พวกเขาจะกลัวพระเจ้าของพวกเขา ผู้ทรงอำนาจเหนือพวกเจ้า ปฏิบัติตามสิ่งที่พวกเขาถูกบัญชา

 

[16:51]

และอัลลอฮ์ตรัสว่า พวกเจ้าอย่ายึดถือพระเจ้าสององค์ แท้จริงพระองค์คือพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้น เฉพาะข้าเท่านั้นที่พวกเจ้าต้องเกรงกลัว

 

[16:52]

และเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และการภักดีต่อพระองค์เท่านั้นจำเป็นต้องมีประจำ ดังนั้นพวกเจ้าจะยำเกรงผู้ใดอื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ?

 

[16:53]

และไม่มีความโปรดปรานใด ๆ ที่พวกเจ้าได้รับนอกจากมันย่อมมาจากอัลลอฮ์ ดังนั้น เมื่อความทุกข์ร้ายประสบแก่พวกเจ้า พวกเข้าก็จะคร่ำครวญขอพรต่อพระองค์

 

[16:54]

แล้วเมื่อพระองค์ทรงปลดเปลื้องความทุกข์ยากออกจากพวกเจ้า ขณะนั้นกลุ่มหนึ่งจากพวกเจ้าก็จะตั้งภาคีต่อพระเจ้าของพวกเขา

 

[16:55]

ก็ให้พวกเขาเนรคุณต่อสิ่งที่เราได้ให้แก่พวกเขา ดังนั้นจงร่าเริงไปเถิดแล้วพวกเจ้าก็จะรู้

 

[16:56]

และพวกเขาตั้งสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ (ให้เป็นเจว็ด) อันเป็นส่วนได้จากสิ่งที่เราได้ให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา ขอสาบานต่ออัลลอฮ์พวกเจ้าจะถูกสอบสวนอย่างแน่นอน เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเจ้ากุขึ้น

 

[16:57]

และพวกเขาตั้งบุตรีให้แก่อัลลอฮ์ มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ และสำหรับพวกเขามีสิ่งที่พวกเขาใคร่จะมี (บุตรชาย

 

[16:58]

และเมื่อผู้ใดในหมู่พวกเขาได้รับข่าวว่าได้ลูกผู้หญิง ใบหน้าของเขากลายเป็นหมองคล้ำและเศร้าสลด

 

[16:59]

เขาจะซ่อนตัวเองจากกลุ่มชน เนื่องจากความอับอายที่ได้ถูกแจ้งแก่เขาเขาจะเก็บเอาไว้ด้วยความอัปยศหรือฝังมันในดิน พึงรู้เถิด ! สิ่งที่พวกเขาตัดสินใจนั้นมันชั่วแท้ ๆ

 

[16:60]

สำหรับบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อวันปรโลกเป็นตัวอย่างที่ชั่วและสำหรับอัลลอฮ์มีตัวอย่างอันสูงส่ง และพระองค์คือผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ

 

[16:61]

และหากอัลลอฮ์จะทรงเอาโทษมนุษย์เนื่องจากความอธรรมของพวกเขาพระองค์จะไม่ทรงให้เหลือทิ้งไว้บนมัน (แผ่นดิน) ซึ่งสัตว์โลกใด ๆ แต่พระองค์ทรงประวิงเวลาให้แก่พวกเขาได้มาถึง พวกเขาจะประวิงเวลาให้ช้าสักชั่วโมงหนึ่งก็ไม่ได้ และพวกเขาจะเร่งให้เร็ว (สักชั่วโมงหนึ่ง) ก็ไม่ได้

 

[16:62]

และพวกเขาตั้งสิ่งที่พวกเขาชิงชังให้อัลลอฮ์ และลิ้นของพวกเขากล่าวเท็จขึ้นว่า สำหรับพวกเขานั้นดีเยี่ยม โดยแน่นนอ แท้จริงสำหรับพวกเขาคือไฟนรก และพวกเขาจะถูกส่งล่วงหน้าไปก่อน

 

[16:63]

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ โดยแน่นอนเราได้ส่ง (บรรดาร่อซู้ล) ไปยังประชาชาติต่าง ๆ ก่อนเจ้า แล้วชัยตอนได้ทำให้การงานของพวกเขาเพริศแพร้วแก่พวกเขา ดังนั้น มันเป็นผู้คุ้มครองพวกเขาในวันนี้ และสำหรับพวกเขาคือการลงโทษอันเจ็บปวด

 

[16:64]

และเรามิได้ให้คัมภีร์นี้ลงมาแก่เจ้า เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อให้เจ้าชี้แจง ให้แกจ่มแจ้งแก่พวกเขาในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกันและเพื่อเป็นการชี้แนวทางและเป็นความเมตตาแก่หมู่ชนผู้ศรัทธา

 

[16:65]

และอัลลอฮ์ทรงประทานน้ำลงมาจากฟากฟ้า เพื่อให้แผ่นดินมีชีวิตด้วยมัน หลังจากการแห้งแล้งของมัน แท้จริงในการนี้ แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณแก่กลุ่มชนผู้รับฟัง (การตักเตือนเพื่อนำมาใคร่ครวญ)

 

[16:66]

และแท้จริงในปศุสัตว์ ย่อมมีบทเรียนอย่างแน่นอนแก่พวกเจ้า เราให้พวกเจ้าดื่มจากสิ่งที่อยู่ในท้องของมัน จากระหว่างมูลและเลือดเป็นน้ำนมบริสุทธิ์ เป็นที่โอชาแก่ผู้ดื่ม

 

[16:67]

และจากผลของต้นอินทผาลัมและองุ่นพวกเจ้าได้จากมันมาเป็นทั้งของมึนเมาและอาหารที่ดี แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณแก่กลุ่มชนผู้ใช้ปัญญา

 

[16:68]

และพระเจ้าของเจ้า ทรงดลใจ แก่ผึ้งว่าจงทำรังตามภูเขาและตามต้นไม้ และตามที่พวกเขาทำร้านขึ้น

 

[16:69]

แล้วเจ้า (ผึ้ง) จงกินจากผลไม้ทั้งหลาย แล้งจงดำเนินตามทางของพระเจ้าของเจ้า โดยสะดวกสบาย มีเครื่องดื่มที่มีสีสรรต่างๆออกมาจากท้องของมัน ในนั้นมีสิ่งบำบัดแก่ปวงมนุษย์แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณแก่กลุ่มชนผู้ตรึกตรอง

 

[16:70]

และอัลลอฮ์ทรงบังเกิดพวกเจ้า แล้วทรงให้พวกเจ้าตาย และบางคนในหมู่พวกเจ้ามีผู้ถูกนำกลับไปยังวัยต่ำสุดของชีวิตเพื่อมิให้เขารู้อะไรหลังจากที่เคยมีความรู้ แม้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงอานุภาพ

 

[16:71]

และอัลลอฮ์ทรงให้บางคนในหมู่พวกเจ้า ดีเด่นกว่าอีกบางคนในเรื่องปัจจัยยังชีพแล้วทำไมบรรดาผู้ที่ได้รับความดีเด่น จึงไม่แบ่งปัจจัยยังชีพของพวกเขา แก่บรรดาผู้ที่มือขวาของพวกเขาครอบครอง เพื่อพวกเขาจะได้เท่าเทียมกัน ในเรื่องนั้น ดังนั้น ต่อความโปรดปรานของอัลลอฮ์พวกเขาอกตัญญูกระนั้นหรือ?

 

[16:72]

และอัลลอฮ์ทรงกำหนดคู่ครองแก่พวกเจ้าซึ่งมาจากหมู่พวกเจ้าและทรงทำให้พวกเจ้ามีลูกและหากนจากคู่ครองของพวกเจ้าและทรงประทานริซกีจากสิ่งดี ๆ แก่พวกเจ้า ดังนั้น ต่อสิ่งเท็จพวกเขาศรัทธาและต่อความโปรดปรานของอัลลอฮ์พวกเขาเนรคุณกระนั้นหรือ?

 

[16:73]

และพวกเขาเคารพบูชาอื่นจากอัลลอฮ์ตือสิ่งที่ไม่มีอำนาจให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินแต่อย่างใด และพวกมันก็ไม่สามารถกระทำได้

 

[16:74]

ดังนั้น พวกเจ้าอย่ายกอุทาหรณ์ทั้งหลายกับอัลลอฮ์เลย แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ และพวกเจ้าไม่รู้เท่าพระองค์

 

[16:75]

อัลลอฮ์ทรงยกอุทาหรณ์ถึงบ่าวผู้เป็นทาสไม่มีอำนาจในสิ่งใด กับผู้ที่เราได้ให้ปัจจัยยังชีพที่ดีจากเราแก่เขา แล้วก็เขาบริจาคมันโดยทางลับและเปิดเผย พวกเขาจะเท่าเทียมกันละหรือ? บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์ แต่ทว่าส่วนมากของพวกเขาไม่รู้

 

[16:76]

และอัลลอฮ์ทรงยกอุทาหรณ์ถึงชายสองคน หนึ่งในสองคนเป็นใบ้ เขาไม่สามารถในสิ่งใด และเขาเป็นภาระแก่นายของเขาอีกด้วยไม่ว่าแห่งใดที่นายจะส่งเขาไป เขาจะไม่นำความดีใด ๆ มาเลยเขาจะเท่าเทียมกับผู้กำชับในทางที่เที่ยงธรรม และเขาอยู่ในทางที่เที่ยงตรงกระนั้นหรือ?

 

[16:77]

และเฉพาะอัลลอฮ์ (ทรงรู้) สิ่งพันญาณวิสัยแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และเรื่องที่เกี่ยวกับวันสิ้นโลกนั้นมิใช่อื่นใด นอกจากเพียงชั่วพริบตาเดียวหรือมันใกล้ (เร็ว) ยิ่งกว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง

 

[16:78]

และอัลลอฮ์ทรงให้พวกเจ้าออกจากครรภ์มารดาของพวกเจ้า โดยพวกเจ้าไม่รู้อะไรเลย และพระองค์ทรงทำให้พวกเจ้าได้ยินและเห็นและมีหัวใจ (สำหรับนึกและคิด) เพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบคุณ

 

[16:79]

พวกเขาไม่เห็นฝูงนกดอกหรือว่า พวกมันได้รับความสะดวกในห้วงอากาศแห่งชั้นฟ้า ไม่มีผู้ใดดึงพวกมันไว้ได้นอกจากอัลลอฮ์ แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณมากหลายสำหรับกลุ่มชนผู้ศรัทธา

 

[16:80]

และอัลลอฮ์ทางทำให้มีที่พำนักในบ้านของพวกเจ้า และทรงทำให้พวกเจ้ามีบ้านทำจากหนังปศุสัตว์ ซึ่งทำให้พวกเจ้ารู้สึกเบาในยามเดินทางของพวกเจ้า และในยามพักของพวกเจ้า และจากขนของมันและปุยของมันและผมของมัน ทำเป็นเครื่องใช้และสิ่งมีประโยชน์ชั่วเวลาหนึ่ง

 

[16:81]

และอัลลอฮ์ทรงทำจากสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างให้เป็นที่ร่มแก่พวกเจ้า และพระองค์ทรงทำที่พักพิงจากภูเขาให้แก่พวกเจ้าและพระองค์ทรงทำเครื่องนุ่มห่มให้พวกเจ้า เพื่อป้องกันพวกเจ้าให้พ้นจากความร้อน และเสื้อเกราะเพื่อป้องกันพวกเจ้าให้พ้นจากอันตรายในยามสงคราม เช่นนั้นแหละ พระองค์ทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์อย่างครบถ้วนแก่พวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้นอบน้อม

 

[16:82]

ดังนั้นหากพวกเขาผินหลังกลับแท้จริงหน้าที่ของเจ้าคือการแจ้งข่าวอย่างชัดแจ้งเท่านั้น

 

[16:83]

พวกเขาตระหนักดีในความโปรดปรานของอัลลอฮ์แต่แล้วพวกเขาปฏิเสธมัน และส่วนมากของพวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา

 

[16:84]

และวันที่เราจะตั้งพยานขึ้นจากทุกประชาชาติ แล้วบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะไม่ถูกอนุญาต และพวกเขาจะไม่ถูกขอร้องให้รำพันถึงความผิด

 

[16:85]

และเมื่อบรรดาผู้อธรรมได้เห็นการลงโทษมันจะไม่ถูกลดหย่อนแก่พวกเขา และพสกเขาจะไม่ถูกพิจารณาให้ผ่อนปรน

 

[16:86]

และเมื่อบรรดาผู้ตั้งภาคีได้มองเห็นเจว็ดของพวกเขา พวกเขากล่าวว่า โอ้พระเจ้าของเราเหล่านี้คือเจว็ดของพวกเรา ซึ่งพวกเราได้เรียกร้อง (ให้บูชา) อื่นจากพระองค์ดังนั้น พวกมันได้กล่าวตอบว่า แท้จริงพวกท่านนั้นเป็นผู้โกหก

 

[16:87]

และในวันนั้นพวกเขาจะยอมจำนนต่ออัลลออ์ และสิ่งที่พวกเขาเคยกุขึ้นมาก็จะสูญหายไปจากพวกเขา

 

[16:88]

บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและปิดกั้นทางของอัลลอฮ์เราได้เพิ่มการลงโทษแก่พวกเขาให้มากขึ้น เนื่องจากพวกเขาได้ก่อความเสียหาย

 

[16:89]

และวันที่เราจะตั้งพยานขึ้นจากทุกประชาชาติ (เพื่อเป็นพยาน) ต่อพวกเขาจากหมู่พวกเขาเอง และเราก็นำเจ้ามาเป็นพนานต่อเขาเหล่านั้นและเราได้ให้คัมภีร์แก่เจ้าเพื่อชี้แจงแก่ทุกสิ่งและเพื่อเป็นทางนำและเป็นความเมตตา และเป็นข่าวดีแก่บรรดามุสลิม

 

[16:90]

แท้จริงอัลลอฮ์ทรงใช้ให้รักษาความยุติธรรมและทำดีและการบริจาคแก่ญาติใกล้ชิดและให้ละเว้นจากการทำลามกและการชั่วช้า และการอธรรม พระองค์ทรงตักเตือนพวกเจ้าเพื่อพวกเจ้าจักได้รำลึก

 

[16:91]

และพวกเจ้าจงปฏิบัติให้ครบตามพันธสัญญาของอัลลอฮ์ เมื่อพวกเจ้าได้ให้สัญญาไว้และพวกเจ้าอย่าได้ทำลายคำสาบานหลังจากได้ยืนยันมัน และแน่นอน พวกเจ้าได้ตั้งอัลลอฮ์เป็นพยานแก่พวกเจ้า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

 

[16:92]

และพวกเจ้าอย่าเป็นเช่นนางที่คลายเกลียวด้ายของนาง หลังจากที่ได้ปั่นให้มันแน่นแล้วโดยถือเอาการสาบานของพวกเจ้าเป็นการล่อลวงระหว่างพวกเจ้า เพื่อที่จะให้ชาติหนึ่งเข้มแข็งกว่าอีกชาติหนึ่ง แท้จริง อัลลอฮ์ทรงทดลองพวกเจ้าด้วยการสาบาน และแน่นอน พระองค์ตะทรงชี้แจงแก่พวกเจ้าในวันกิยามะฮ์ ถึงสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกันในเรื่องนั้น

 

[16:93]

และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ แน่นอนพระองค์จะทรงทำให้พวกเจ้าเป็นประชาชาติเดียวกันแต่พระองค์จะให้ผู้ที่พระองค์ประสงค์หลงทาง และจะทรงชี้แนะทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และแน่นอน พวกเจ้าจะถูกสอบสวนถึงสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้

 

[16:94]

และพวกเจ้าอย่าถือเอาการสาบานของพวกเจ้า เป็นการล่อลวงระหว่างพวกเจ้า แล้วเท้าก็จะก้าวพลาดได้หลังจากที่มันมั่นคงแล้ว และพวกเจ้าจะได้ลิ่มรสความชั่ว เพระพวกเจ้าได้ปิดกั้นทางของอัลลอฮ์ และสำหรับพวกเจ้าจะได้รับการลงโทษอย่างมหันต์

 

[16:95]

และพวกเจ้าอย่าแลกเปลี่ยนข้อตกลงของอัลลอฮ์กับราคาเพียงเล็กน้อย แท้จริง ณ ที่อัลลอฮ์ ย่อมดีกว่าสำหรับพวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้

 

[16:96]

สิ่งที่อยู่กับพวกเจ้าย่อมอันตรธาน และสิ่งที่อยู่กับอัลลอฮ์นั้นย่อมจีรัง และแน่นอน เราจะตอบแทนบรรดาผู้อดทนซึ่งรางวัลของพวกเขาที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้

 

[16:97]

ผู้ใดปฏิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้นเราจะให้เขาดำรงชีวิตที่ดีและแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาซึ่งรางวัลของพวกเขา ที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้

 

[16:98]

ดังนั้น เมื่อเจ้าอ่านอัลกุรอาน ก็จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์ให้พ้นจากชัยตอนที่ถูกสาปแช่ง

 

[16:99]

แท้จริงมันไม่มีอำนาจใด ๆ เหนือบรรดาผู้ศรัทธา โดยที่พวกเขาได้มอบหมาย (การงาน) ต่อพระเจ้าของพวกเขา

 

[16:100]

แท้จริงอำนาจของมันจะมีเหนือบรรดาผู้เป็นมิตรกับมัน และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้ตั้งภาคีกับพระองค์

 

[16:101]

และเมื่อเราได้เปลี่ยนโองการหนึ่งแทนอีกโองการหนึ่งและอัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่งในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงประทานลงมา พวกเขากล่าวว่า แท้จริงท่านเป็นผู้กุขึ้น เปล่าเลย! ส่วนมากของพวกเขาไม่รู้

 

[16:102]

จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด วิญญาณบริสุทธิ์ได้นำมัน (โองการอัลกุรอาน) ลงมาจากพระเจ้าของเจ้าด้วยความจริง เพื่อให้บรรดาผู้ศรัทธามีความมั่นคง และเป็นทางนำ และข่าวดีแก่บรรดามุสลิม

 

[16:103]

และโดยแน่นอนเรารู้ที่พวกเขากล่าวว่า แท้จริงสามัญชนคนหนึ่งสอนเขาภาษาที่พวกเขาพาดพิงไปถึงนั้นเป็นภาษาต่างถิ่นและนี่เป็นภาษาอาหรับที่ชัดแจ้ง

 

[16:104]

แท้จริง บรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของอัลลอฮ์ อัลลอฮ์จะไม่ชี้แนะทางแก่พวกเขา และสำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บปวด

 

[16:105]

แท้จริงบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของอัลลอฮ์นั้น กุความเท็จขึ้น และชนเล่านั้นคือผู้กล่าวเท็จ

 

[16:106]

ผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์หลังจากที่เขาได้รับศรัทธาแล้ว (เขาจะได้รับความกริ้วจากอัลลอฮ์) เว้นแต่ผู้ที่ถูกบังคับทั้งๆ ที่หัวใจของเขาเปี่ยมไปด้วยศรัทธาแต่ผู้ใดเปิดหัวอกของเขาด้วยการปฏิเสธศรัทธา พวกเขาก็จะได้รับความกริ้วจากอัลลอฮ์และสำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างมหันต์

 

[16:107]

ทั้งนี้เพราะว่าพวกเขาพอใจเลือกเอาชีวิตในโลกนี้เหนือปรโลก และแท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงชี้แนะทางแก่กลุ่มชนผู้ปฏิเสธศรัทธา

 

[16:108]

ชนเหล่านั้นคือผู้ที่อัลลอฮ์ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกเขา และบนหูของพวกเขาและบนตาของพวกเขาและชนเหล่านั้นคือผู้เผลอเรอ

 

[16:109]

โดยแน่นอน แท้จริงพวกเขาในปรโลกจะเป็นผู้ขาดทุน

 

[16:110]

แต่ แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น สำหรับบรรดาผู้อพยพหลังจากถูกทดสอบแล้ว พวกเขาก็ต่อสู้ดิ้นรนและอดทน แท้จริงพระเจ้าของเจ้าหลังจากนั้นแน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ

 

[16:111]

วันที่ทุกชีวิตจะมาโต้แย้งแทนชีวิตของมันและทุกชีวิตจะถูกตอบแทนจนครบถ้วนตามที่ได้กระทำไว้ และพสกเขาจะไม่ถูกอธรรม

 

[16:112]

และอัลลอฮ์ทรงยกอุทาหรณ์ เมืองหนึ่งซึ่งปลอดภัยและสงบ ปัจจัยยังชีพของมันมีมาอย่างอุดมสมบูรณ์ทุกแห่งหน แล้วมันก็ปฏิเสธต่อความโปรดปรานของอัลลอฮ์ ดังนั้น อัลลอฮ์จึงทรงให้มันลิ้มรสความรู้สึก แห่งความหิวและความกลัว ตามที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้

 

[16:113]

และโดยแน่นอน ได้มีร่อซู,ท่านหนึ่งจากหมู่พวกเขามายังพวกเขา แล้วพวกเขาปฏิเสธไม่ยอมเชื่อเขาดังนั้น การลงโทษได้คร่าพวกเขาโดยที่พวกเขาเป็นผู้อธรรม

 

[16:114]

พวกเจ้าจงบริโภคในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ซึ่งเป็นที่อนุมัติที่ดี และพวกเจ้าจงขอบคุณต่อความโปรดปรานของอัลลอฮ์ หากพวกเจ้าเคารพภักดีเฉพาะพระองค์เท่านั้น

 

[16:115]

แท้จริง พระองค์ทรงห้ามพวกเจ้าเพียงแต่สัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงที่มันเพื่ออื่นจากอัลลอฮ์ดังนั้นผู้ใดที่อยู่ในสภาพคับขัน โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่เป็นผู้ละเมิดแล้ว แท้จริง อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ

 

[16:116]

และพวกเจ้าอย่ากล่าวตามที่ลิ้นของพวกเจ้ากล่าวเท็จขึ้นว่า นี่เป็นที่อนุมัติและนี่เป็นที่ต้องห้าม เพื่อที่พวกเจ้าจะกล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์แท้จริงบรรดาผู้กล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์นั้น พวกเขาจะไม่ได้รับความสำเร็จ

 

[16:117]

ผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยและสำหรับพวกเขาคือการลงโทษอันเจ็บปวด

 

[16:118]

และแก่บรรดาชาวยิว เราได้ห้ามสิ่งที่เราได้บอกแก่เจ้ามาแต่ก่อนแล้วและเรามิได้อยุติธรรมต่อพวกเขา แต่พวกเขาได้อยุติธรรมต่อตัวพวกเขาเอง

 

[16:119]

แต่แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น สำหรับบรรดาผู้กระทำการชั่วโดยไม่รู้ แล้วพวกเขาก็ลุแก่โทษหลังจากนั้น และฟื้นฟูแก้ไขให้ดี แท้จริงพระเจ้าของเจ้าหลังจากนั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ

 

[16:120]

แท้จริง อิบรอฮีมนั้นเป็นแบบอย่างอันดีเลิศเป็นผู้ภักดีต่ออัลลอฮ์ เป็นผู้เที่ยงธรรม และเขามิได้อยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี

 

[16:121]

เป็นผู้กตัญญูกตเวทีต่อความโปรดปรานของพระองค์ พระองค์ทรงเลือกเขา และทรงชี้แนะทางแก้เขาสู่ทางที่เที่ยงตรง

 

[16:122]

และเราได้ให้ความดีแก่เขาในโลกนี้และแท้จริงในปรโลกนั้น เขาจะอยู่ในหมู่คนดี ๆ อย่างแน่นอน

 

[16:123]

แล้วเราได้วะฮีย์แก่เจ้าว่า จงปฏิบัติตามศาสนาของอิบรอฮีมผู้เที่ยงธรรม และเขามิได้อยู่ในมหู่ผู้ตั้งภาคี

 

[16:124]

แท้จริง วันเสาร์ได้ถูกกำหนดขึ้นแก่บรรดาผู้ขัดแย้งกันในเรื่องนั้นและแท้จริงพระเจ้าของเจ้าจะตัดสินระหว่างพวกเขาอย่างแน่นอนในวันกิยามะฮ์ ในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกันในเรื่องนั้น

 

[16:125]

จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าแท้จริงพระเจ้าของพระองค์และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง

 

[16:126]

และหากพวกเจ้าจะลงโทษ (ฝ่ายปรปักษ์) ก็จงลงโทษเยี่ยงที่พวกเจ้าได้รับโทษ และหากพวกเจ้าอดทน แน่นอน มันเป็นการดียิ่งสำหรับบรรดาผู้อดทน

 

[16:127]

และจงอดทนเถิด และการอดทนของเจ้าจะมีขึ้นไม่ได้ เว้นแต่ด้วย (การเตาฟีกของ) อัลลอฮ์ และอย่าเศร้าโศกต่อพวกเขา และอย่าคับใจในสิ่งที่พวกเขาวางกลอุบาย

 

[16:128]

แท้จริง อัลลอฮ์ทรงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ยำเกรง และบรรดาผู้กระทำความดี