PART 23
[36:23]
จะให้ฉันยึดถือพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์กระนั้นหรือ? หากพระผู้ทรงกรุณาปรานี
ทรงประสงค์จะก่อความทุกข์ยากแก่ฉัน
การชะฟาอะฮ์ของพวกเขาจะไม่ก่อประโยชน์อันใดแก่ฉันเลยและพวกเขาก็จะช่วยฉันให้รอดพ้น
(จากการลงโทษ)
ไม่ได้เลย
[36:24]
แท้จริง
เมื่อนั้นฉันจะอยู่ในการหลงผิดอย่างชัดแจ้ง
[36:25]
แท้จริงฉันศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกท่าน
ดังนั้น
พวกท่านจงฟังฉันซิ!
[36:26]
เขากล่าวว่า
โอ้
มาตรว่าหมู่ชนของฉันได้รู้
(สภาพของฉัน)
[36:27]
ถึงการที่พระเจ้าของฉันทรงอภัยให้แก่ฉัน
และทรงทำให้ฉันอยู่ในหมู่ผู้มีเกียรติ
[36:28]
และเรามิได้ส่งไพร่พลลงมาจากฟากฟ้าแก่หมู่ชนของเขาหลังจากเขา
และเราก็มิใช่เป็นผู้ส่งพวกเขาลงมา
[36:29]
แล้วเมื่อนั้นพวกเขาก็ดับเงียบ
[36:30]
โอ้
อนิจจาต่อปวงบ่าว
ไม่มีร่อซู้ลคนใดมายังพวกเขา
เว้นแต่พวกเขาได้เย้ยหยันเขา
[36:31]
พวกเขามิได้พิจารณาดอกหรือว่า
กี่ศตวรรษมาแล้วก่อนหน้าพวกเขาเราได้ทำลายโดยที่เขาเหล่านั้นมิได้กลับมายังพวกเขา
[36:32]
และแต่ละคนในพวกเขาทั้งหมดจะถูกนำมาปรากฏตัวต่อหน้าเรา
[36:33]
และสัญญาณหนึ่งสำหรับพวกเขาก็คือ
แผ่นดินที่แห้งแล้งเราได้ให้มันมีชีวิตชีวาขึ้นมาและเราได้นำเมล็ดพืชออกมาจากมัน
ซึ่งส่วนหนึ่งจากเมล็ดพืชนั้นพวกเขาใช้กิน
[36:34]
และเราได้ทำให้มีในแผ่นดินนั้นเรือกสวนมากหลาย
จากอินทผลัมและองุ่น
และเราได้ทำมีตาน้ำในนั้น
[36:35]
เพื่อพวกเขาจะได้กินผลไม้ของมันและจากสิ่งที่มือของพวกเขาได้กระทำมันขึ้นแล้วพวกเขาจะไม่ขอบคุณกระนั้นหรือ
?
[36:36]
มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระผู้ทรงสร้างทุกสิ่งทั้งหมดเป็นคู่
ๆ
จากสิ่งที่แผ่นดินได้
(ให้มัน)
งอกเงยขึ้นมา
และจากตัวของพวกเขาเองและจากสิ่งที่พวกเขาไม่รู้
[36:37]
และสัญญาณหนึ่งสำหรับพวกเขาก็คือกลางคืน
เราได้ถอนกลางวันออกจากมัน
แล้วพวกเขาก็อยู่ในความมืด
[36:38]
และดวงอาทิตย์โคจรตามวิถีของมัน
นั่นคือ
การกำหนดของพระผู้ทรงอำนาจ
ผู้ทรงรอบรู้
[36:39]
และดวงจันทร์นั้น
เราได้กำหนดให้มันโคจรตามตำแหน่ง
จนกระทั่งมันได้กลายมาเป็นเช่นกิ่งอินทผลัมแห้ง
[36:40]
ดวงอาทิตย์ก็ไม่สมควร
(อนุมัติ)
แก่มันที่จะไล่ตามใกล้ดวงจันทร์
และกลางคืนก็จะไม่ล้ำหน้ากลางวัน
และทั้งหมดนั้นจะเวียนว่ายอยู่ในจักรราศี
[36:41]
และสัญญาณหนึ่งสำหรับพวกเขาก็คือ
เราได้บรรทุกลูกหลานของพวกเขาไว้ในเรือจนเต็ม
[36:42]
และเราได้สร้างทำนองเดียวกันนี้
(เรือใหญ่)
แก่พวกเขา
เพื่อให้พวกเขาขับขี่
[36:43]
และถ้าเราประสงค์เราก็จะจมพวกเขาเสีย
แล้วจะไม่มีผู้ร้องตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือให้แก่เขา
และพวกเขาก็จะไม่ถูกช่วยให้รอดพ้น
(จากการจมน้ำตาย)
ด้วย
[36:44]
เว้นแต่ด้วยความเมตตาจากเรา
และความเพลิดเพลินชั่วระยะหนึ่ง
[36:45]
และเมื่อได้มีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า
จงระวังสิ่งที่อยู่ข้างหน้าพวกเจ้า
และสิ่งที่อยู่ข้างหลังพวกเจ้า
เพื่อพวกเจ้าจะได้รับความเมตตา
[36:46]
และไม่มีสัญญาณใดในบรรดาสัญญาณของพระเจ้าของพวกเขาได้มีมายังพวกเขาเว้นแต่พวกเขาจะผินหลังให้แก่
สัญญาณนั้น ๆ
[36:47]
และเมื่อมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า
จงบริจาคจากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานเป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า
บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้กล่าวแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า
เราจะให้อาหารแก่ผู้ที่หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ก็จะให้อาหารแก่เขากระนั้นหรือ
? พวกท่านมิใช่อื่นใดเลยนอกจากอยู่ในการหลงผิดอย่างชัดแจ้ง
[36:48]
และพวกเขากล่าวว่า
เมื่อใดเล่าสัญญานี้จะเกิดขึ้น
หากพวกท่านเป็นผู้สัตย์จริง
[36:49]
พวกเขามิได้คอยสิ่งใดเลยนอกจากเสียงกัมปนาทเพียงครั้งเดียว
ซึ่งจะคร่าชีวิต
พวกเขาในขณะที่พวกเขาโต้เถียงกันอยู่
[36:50]
แล้วพวกเขาก็ไม่สามารถจะสั่งเสียอันใด
และพวกเขาก็ไม่ทันจะกลับไปยังครอบครัวของพวกเขาได้
[36:51]
และสังข์ก็จะถูกเป่าขั้น
ทันใดนั้นพวกเขาจะออกจากหลุมฝังศพ
แล้วพวกเขาก็รีบรุดไปยังพระเจ้าของพวกเขา
[36:52]
พวกเขากล่าวว่า
โอ้ความหายนะที่ประสบแก่เรา
!
ใครเล่าที่ให้เราฟื้นขึ้นจากที่นอนของเรา
(กุบูร)
(จะมีเสียงกล่าวขึ้นว่า)
นี่แหละคือสิ่งที่พระผู้ทรงกรุณาปรานีได้ทรงสัญญาไว้
และบรรดาร่อซู้ลได้กล่าวสมจริงแล้ว
[36:53]
ไม่มีอะไรดอกนอกจากเสียงกัมปนาทเพียงครั้งเดียว
ทันใดนั้นพวกเขาทั้งหมดก็จะถูกนำมาปรากฏต่อหน้าเรา
[36:54]
ในวันนั้นไม่มีชีวิตใด
(ผู้ใด)
จะถูกอยุติธรรมแต่ประการใด
และพวกเจ้าจะไม่ได้รับการตอบแทน
นอกจากสิ่งที่พวกเจ้าได้ปฏิบัติไว้
[36:55]
แท้จริง
ในวันนั้นชาวสวรรค์จะอยู่ในกิจกรรมอันสุขสำราญ
[36:56]
พวกเขาและคู่ครองของพวกเขาจะอยู่ภายใต้ร่มเงา
นอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้นวม
[36:57]
สำหรับพวกเขาในสวนสวรรค์นั้นจะมีผลไม้
(หลากชนิด)
และสำหรับพวกเขาจะมีสิ่งที่พวกเขาต้องการ
[36:58]
ความศานติ!
พระดำรัสหนึ่งจากพระเจ้าผู้ทรงเมตตาเสมอ
[36:59]
โอ้บรรดาอาชญากรทั้งหลายเอ๋ย!
วันนี้พวกเจ้าจงถอยห่างออกไปให้พ้น
[36:60]
ข้ามิได้บัญชาพวกเจ้าดอกหรือ
โอ้ลูกหลานของอาดัมเอ๋ย!
ว่าพวกเจ้าอย่าได้เคารพบูชาชัยตอนมารร้าย
แท้จริงมันนั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเจ้า
[36:61]
และพวกเจ้าจงเคารพภักดีต่อข้า
นี่คือแนวทางอันเที่ยงแท้
[36:62]
และโดยแน่นอน
มันได้ทำให้หมู่ชนจำนวนมากของพวกเจ้าหลงทาง
ทำไมพวกเจ้าจึงไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญเล่า?
[36:63]
นี่คือนรกญะฮันนัม
ซึ่งพวกเจ้าถูกสัญญาไว้
[36:64]
วันนี้พวกเจ้าจะเข้าไปลิ้มรสมัน
เนื่องเพราะพวกเจ้าปฏิเสธ
[36:65]
วันนี้เราจะปิดผนึกปากของพวกเขาและมือของพวกเขาจะพูดแก่เรา
และเท้าของพวกเขาจะเป็นพยานตามที่พวกเขาได้ปฏิบัติไว้
[36:66]
และหากเราประสงค์
เราก็จะทำให้ตาของพวกเขาบอดลง
แล้วพวกเขาก็จะคลำหาทาง
แต่พวกเขาจะเห็นได้อย่างไร?
[36:67]
และหากเราประสงค์
เราก็จะแปลงรูปของพวกเขาให้อยู่กับที่ของพวกเขา
แล้วพวกเขาก็ไม่อาจจะไปข้างหน้าได้และก็ไม่อาจจะถอยกลับได้
[36:68]
และผู้ใดที่เราทำให้เขามีอายุยืนนานเราจะให้กลับคืนสู่สภาพเมื่อตอนแรกเกิดแล้วพวกเขาไม่ไช้สติปัญญาใคร่ครวญบ้างหรือ?
[36:69]
เรามิได้สอนกวีนิพนธ์แก่เขา
(มุฮัมมัด) และไม่เหมาะสมแก่เขาที่จะเป็นกวีคัมภีร์นี้มิใช่อื่นใดเลย
นอกจากเป็นข้อตักเตือนและเป็นคัมภีร์อันชัดแจ้ง
[36:70]
เพื่อตักเตือนผู้ที่มีชีวิต
และเพื่อข้อตักเตือนนั้นเป็นหลักฐานยืนยันแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา
[36:71]
และพวกเขามิได้พิจารณาดูดอกหรือเราได้สร้างปศุสัตว์ขึ้นมาเพื่อพวกเขาจากสิ่งที่มือของเราได้ทำขึ้น
แล้วพวกเขาก็ได้ครอบครองมัน
[36:72]
และเราได้ทำให้มันยอมจำนนแก่พวกเขา
ดังนั้น
บางชนิดมันก็เป็นพาหนะแก่พวกเขา
และบางชนิดพวกเขาก็ใช้กินเป็นอาหาร
[36:73]
และในตัวมันนั้นมีประโยชน์มากหลายและเครื่องดื่มสำหรับพวกเขา
แล้วพวกเขาจะยังไม่ขอบคุณอีกหรือ?
[36:74]
และพวกเขาได้ยึดถือเอาพระเจ้ามากหลาย
(เป็นที่เคารพสักการะ)
อื่นจากอัลลอฮ์หวังว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือ
(จากมัน)
[36:75]
พวกมันไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้
พวกเขาจะถูกนำมาปรากฏตัวเป็นกลุ่ม
ๆ เพื่อพวกมัน
[36:76]
ดังนั้น
อย่าได้ให้คำพูดของพวกเขาเป็นที่เสียใจแก่เจ้า
แท้จริงเรารู้ดีถึงสิ่งที่พวกเขาปิดบัง
และสิ่งที่พวกเขาเปิดเผย
[36:77]
มนุษย์มิได้พิจารณาดูดอกหรือว่าเราได้บังเกิดเขามาจากน้ำอสุจิ
แล้วจงดูซิ
เขาได้กลายเป็นคู่ปรปักษ์ตัวฉกาจ
[36:78]
และเขาได้ยกอุทาหรณ์เปรียบเทียบแก่เรา
และเขาได้ลืมต้นกำเนิดของเขา
เขากล่าวว่า
ใครเล่าจะให้กระดูกมีชีวิตขึ้นมาอีกในเมื่อมันเป็นผุยผงไปแล้ว
[36:79]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
พระผู้ทรงให้กำเนิดมันครั้งแรกนั้น
ย่อมจะทรงให้มันมีชีวิตขึ้นมาอีก
และพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้การบังเกิดทุกสิ่ง
[36:80]
ผู้ทรงทำให้มีไฟสำหรับพวกเจ้าจากต้นไม้เขียวสด
(แล้วจงดูซิ)
พวกเจ้าก็ได้จุดมันจากเชื้อไฟนั้น
[36:81]
พระองค์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน
จะไม่ทรงสามารถที่จะสร้างเช่นเดียวกับพวกเขากระนั้นหรือ
? แน่นอน
และพระองค์เป็นผู้ทรงสร้างที่ยิ่งใหญ่
ผู้ทรงรอบรู้
[36:82]
แท้จริงพระบัญชาของพระองค์
เมื่อทรงประสงค์สิ่งใด
พระองค์ก็จะตรัสแก่มันว่า
จงเป็น
แล้วมันก็จะเป็นขึ้นมา
[36:83]
ดังนั้น
มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระองค์ซึ่งในพระหัตถ์ของพระองค์มีอำนาจเหนือทุกสิ่งและยังพระองค์เท่านั้นที่พวกเจ้าจะถูกนำกลับไป
As-Sâffât
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์
ผู้ทรงเมตตา
ผู้ทรงปรานี
[37:1]
ขอสาบานด้วย
(มลาอิกะฮ์)
ผู้เข้าแถวตามลำดับ
[37:2]
และ
(มลาอิกะฮ์)
ผู้ควบคุมอย่างรัดกุม
[37:3]
และ
(มลาอิกะฮ์)
ผู้อ่านขัอตักเตือน
[37:4]
แท้จริง
พระเจ้าของพวกเจ้านั้นทรงเอกะอย่างแน่นอน
[37:5]
พระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน
และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง
และพระเจ้าแห่งทิศทางตะวันออก
[37:6]
แท้จริง
เราได้ประดับท้องฟ้าแห่งโลกดุนยาอย่างสวยงามด้วยดวงดาวทั้งหลาย
[37:7]
และเพื่อป้องกันจากชัยตอนมารร้ายทุกตัวที่ดื้อรั้นพยศ
[37:8]
พวกมันจะไม่สามารถรับฟัง
(จากมลาอิกะฮ์ผู้อยู่)
ในชั้นฟ้าชั้นสูงได้
และพวกมันจะถูกขว้างจากทุกๆ
ด้าน
[37:9]
ถูกขับไล่ใสส่งออกมา
และสำหรับพวกมันนั้นจะได้รับการลงโทษอย่างต่อเนื่อง
[37:10]
เว้นแต่ตัวใดที่มันฉกฉวยเอาไปได้แม้แต่ครั้งเดียว
ก็จะมีเปลวเพลิงอันโชติช่วงไล่ติดตามมันไป
[37:11]
เจ้าจงถามพวกเขา
(บรรดาผู้ปฏิเสธการฟื้นคืนชีพ)
ซิว่า
พวกเขามีความแข็งแกร่งยิ่งในสิ่งที่ถูกสร้างมากระนั้นหรือ
? หรือว่าสิ่งที่เราได้สร้างมันมา
แท้จริงเราได้สร้างพวกเขามาจากดินเหนียว
[37:12]
แต่เจ้าคงแปลกใจ
ขณะที่พวกเขาเยาะเย้ย
[37:13]
และเมื่อพวกเขาถูกเตือนให้รำลึกพวกเขาก็จะไม่ยอมรับข้อตักเตือน
[37:14]
และเมื่อพวกเขามองเห็นสิ่งปาฏิหาริย์พวกเขาก็ชักชวนกันเยาะเย้ย
[37:15]
และพวกเขากล่าวว่า
นี่มิใช่อื่นใดเลย
นอกจากเล่ห์กลอย่างชัดแจ้ง
[37:16]
เมื่อเราตายไปแล้ว
และเราได้กลายเป็นดินผงและกระดูก
เราจะถูกให้ฟื้นคืนชีพอีกแน่ละหรือ
?
[37:17]
แล้วบรรพบุรุษของพวกเรารุ่นก่อน
ๆ นั้นด้วยหรือ
?
[37:18]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
ใช่แล้ว
และพวกเจ้าจะเป็นผู้อับอายขายหน้าอีกด้วย
[37:19]
ความจริงมันเป็นเพียงเสียงแผดตะโกนก้องเพียงครั้งเดียว
แล้วพวกเขาจะจ้องมอง
[37:20]
แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า
โอ้ความหายนะแก่เรา
นี่คือวันแห่งการตอบแทน
[37:21]
(มลาอิกะฮ์จะตอบว่า)
นี่คือวันแห่งการชี้ขาดตัดสิน
ซึ่งพวกท่านเคยปฏิเสธมัน
[37:22]
จงรวบรวมบรรดาผู้อธรรม
และบรรดาสหายของพวกเขา
และสิ่งที่พวกเขาเคารพสักการะ
[37:23]
อื่นจากอัลลอฮ์
แล้วจงแนะนำทางแก่พวกเขาไปสู่ทางแห่งนรก
[37:24]
และจงยับยั้งพวกเขาไว้
เพราะพวกเขาจะต้องถูกสอบสวน
[37:25]
(จะมีเสียงถามขึ้นว่า)
เกิดอะไรขึ้นแก่พวกเจ้า
ทำไมจึงไม่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
[37:26]
แต่ว่าพวกเขาในวันนั้น
เป็นผู้ยอมจำนนโดยสิ้นเชิง
[37:27]
และบางคนในหมู่พวกเขาจะหันมาหากัน
ไต่ถามซึ่งกันและกัน
[37:28]
พวกเขากล่าวว่า
แท้จริงพวกท่านเคยเข้ามาหาเราทางด้านขวา
[37:29]
พวกเขา
(หัวหน้า)
กล่าวว่า
เปล่าดอก !
พวกท่านต่างหากที่ไม่ยอมศรัทธา
[37:30]
และเราไม่มีอำนาจใด
ๆ
เหนือพวกท่าน
แต่ว่าพวกท่านเป็นหมู่ชนที่ดื้อรั้นต่างหาก
[37:31]
ดังนั้น
พระดำรัสของพระเจ้าของเราจึงคู่ควรแก่เราแล้วแท้จริงเรานั้นเป็นผู้ต้องลิ้มรสอย่างแน่นอน
[37:32]
เราได้แนะนำพวกท่านให้หลงผิดทั้ง
ๆที่ความจริงพวกเราก็หลงผิดอยู่แล้ว
[37:33]
แท้จริง
พวกเขาในวันนั้นย่อมมีส่วนแบ่งร่วมกันในการได้รับโทษ
[37:34]
แท้จริงเช่นนั้นแหละ
เราได้ปฏิบัติต่อบรรดาผู้มีความผิด
[37:35]
เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นเมื่อได้มีการกล่าวแก่พวกเขาว่า
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์
พวกเขาก็หยิ่งผยอง
[37:36]
และพวกเขาจะกล่าวว่า
จะให้เราทอดทิ้งพระเจ้าต่าง
ๆ
ของพวกเราเพื่อนักกวีบ้า
คนหนึ่งกระนั้นหรือ?
[37:37]
เปล่าดอก
! เขา
(มุฮัมมัด)
ได้นำสัจธรรมมา
และเพื่อยืนยันบรรดาร่อซู้ลต่างหาก
[37:38]
แท้จริง
พวกเจ้าจะต้องลิ้มรสการลงโทษอันเจ็บปวดอย่างแน่นอน
[37:39]
และพวกเจ้าจะไม่ได้รับการตอบแทนอื่นใด
นอกจากสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำเอาไว้
[37:40]
เว้นแต่ปวงบ่าวของอัลลอฮ์ผู้ซื่อสัตย์
[37:41]
ชนเหล่านั้น
สำหรับพวกเขาจะได้รับปัจจัยยังชีพที่แน่นอน
[37:42]
ผลไม้หลากชนิด
และพวกเขาก็ได้รับเกียรติ
[37:43]
ในสวนสวรรค์หลากหลายอันรื่นรมย์
[37:44]
อยู่บนเตียงหันหน้าเข้าหากัน
[37:45]
คนรับใช้จะวนเวียนรอบตัวพวกเขาพร้อมด้วยแก้ว
(เหล้า)
ที่มาจากลำธาร
[37:46]
(เหล้านั้น)
ขาวบริสุทธิ์
อร่อยแก่บรรดาผู้ดื่ม
[37:47]
ในนั้นจะไม่ทำให้ปวดมึนศีรษะ
และพวกเขาก็จะไม่มึนเมาจากมัน
[37:48]
และ
ณ
ที่พวกเขานั้นมีบรรดาหญิงบริสุทธิ์
ผู้ลดสายตาลงต่ำ
มีดวงตาโตสวย
[37:49]
เสมือนหนึ่งพวกนางเป็นไข่ถูกหุ้มเปลือกเอาไว้
[37:50]
แล้ว
(ชาวสวรรค์เหล่านั้น)
บางคนในหมู่บ้านพวกเขาจะเข้ามาหากัน
ไต่ถาม
(ทุกข์สุข) ซึ่งกันและกัน
[37:51]
คนหนึ่งในหมู่บ้านพวกเขาก็กล่าวขึ้นว่า
แท้จริง
ฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง
[37:52]
เขาเคยกล่าวว่า
แท้จริงท่านเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้เชื่อมั่น
(ในวันปรโลก)
จริงหรือ ?
[37:53]
เมื่อเราตายไปแล้ว
และเราได้กลายเป็นดินผงและกระดูก
เราจะถูกตอบแทนจริงหรือ?
[37:54]
เขา
(ชาวสวรรค์)
กล่าว
(แก่เพื่อน ๆ
ของเขา) ว่า
พวกท่านอยากจะมองดูไหมเล่า?
[37:55]
ครั้นเมื่อเขามองลงไป
ก็เห็น
(เพื่อนของเขา)
อยู่ท่ามกลางไฟที่ลุกโชติช่วง
[37:56]
เขาจึงกล่าวขึ้นว่า
ขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮ์
ท่านเกือบทำให้ฉันพังพินาศ
[37:57]
และหากมิใช่ความโปรดปรานแห่งพระเจ้าของฉันแล้ว
ฉันจะต้องอยู่ในหมู่ผู้ถูกนำมาลงโทษอย่างแน่นอน
[37:58]
ดังนั้น
เราจะไม่ตาย
[37:59]
เว้นแต่การตายของเราครั้งแรกและเราจะไม่ถูกลงโทษ
กระนั้นหรือ ?
[37:60]
แท้จริง
นี่คือความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
[37:61]
เพื่อเยี่ยง
(การตอบแทน)
นี้
บรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนจงต่อสู้ต่อไปเถิด
[37:62]
นั่นเป็นการต้อนรับที่ดีกว่า
หรือว่าต้นซักกูม
[37:63]
แท้จริง
เราได้จัดทำไว้เป็นการทดสอบแก่บรรดาผู้อธรรม
[37:64]
แท้จริง
มันเป็นต้นไม้ที่เอาออกมาจากก้นบึ้งของนรกที่มีไฟลุกโชติช่วง
[37:65]
ผลของมันคล้ายกับหัวของชัยตอน
[37:66]
แล้วพวกเขาจะกินมัน
และพวกเขาจะเติมมันให้เต็มท้อง
[37:67]
แล้วนอกจากนั้น
พวกเขาจะได้น้ำดื่มที่ผสมจากน้ำเดือด
[37:68]
แล้วแท้จริงทางกลับของพวกเขานั้นย่อมไปสู่ไฟที่ลุกโชติช่วงอย่างแน่นอน
[37:69]
แท้จริงพวกเขาพบบรรพบุรุษของพวกเขาอยู่ในการหลงผิด
[37:70]
แล้วพวกเขาก็ยังรีบเร่งเจริญรอยตามพวกเขา
[37:71]
และโดยแน่นอน
ส่วนมากของชนรุ่นก่อนหน้าพวกเขาได้หลงผิด
[37:72]
และโดยแน่นอน
เราได้ส่งผู้ตักเตือนไปในหมู่พวกเขา
[37:73]
ดังนั้นเจ้าจงดูเถิดว่า
ผลสุดท้ายของพวกที่ถูกเตือนนั้นเป็นอย่างไร
?
[37:74]
เว้นแต่ปวงบ่าวของอัลลอฮ์ผู้ซื่อสัตย์
[37:75]
และโดยแน่นอนนูห์ได้ร้องขอเราดังนั้นผู้ตอบสนองช่างประเสริฐเสียนี่กระไร
[37:76]
และเราได้ช่วยเขาและชุมชนของเขาให้พ้นจากทุกข์ภัยอันมหันต์
[37:77]
และเราได้ให้ลูกหลานของเขายังคงมีชีวิตเหลืออยู่
[37:78]
และเราได้ปล่อยทิ้งไว้
(เกียรติคุณ)
แก่เขาในกลุ่มชนรุ่นหลัง
ๆ
[37:79]
ความศานติจงมีแด่นูห์ในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย
[37:80]
แท้จริง
เช่นนั้นแหละเราจะตอบแทนผู้กระทำความดีทั้งหลาย
[37:81]
แท้จริง
เขา (นูห์) อยู่ในปวงบ่าวของเราผู้ศรัทธา
[37:82]
แล้วเราได้ให้พวกอื่นจมน้ำตาย
[37:83]
และแท้จริง
ผู้ที่ดำเนินตามแนวทางของเขานั้น
คืออิบรอฮีม
[37:84]
เมื่อเขาได้เข้าหาพระเจ้าของเขาด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์
[37:85]
เมื่อเขาได้กล่าวแก่บิดาของเขาและหมู่ชนของเขาว่า
พวกท่านเคารพภักดีอะไรกัน?
[37:86]
เพื่อความเท็จกระนั้นหรือ
ที่พวกท่านปรารถนาพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮ์
?
[37:87]
ดังนั้น
ความนึกคิดของพวกท่านที่มีต่อพระเจ้าแห่งสากลโลกจะเป็นอย่างไร
?
[37:88]
เขา
(อิบรอฮีม)
จึงจ้องมองไปยังดวงดาวทั้งหลาย
[37:89]
แล้วเขาก็กล่าวขึ้นว่า
แท้จริงฉันไม่สบายจริง
ๆ
[37:90]
ดังนั้น
พวกเขาจึงหันหลังให้เขาและกลับออกไป
[37:91]
แล้วอิบรอฮีมก็บ่ายหน้าไปยังเจว็ดต่าง
ๆ ของพวกเขา
แล้วพูดว่า
พวกเจ้าไม่กิน
(อาหารเหล่านี้)
บ้างหรือ ?
[37:92]
ทำไมพวกเจ้าจึงไม่พูดเล่า
?
[37:93]
แล้วเขาก็หันไปตีพวกมันด้วยมือขวา
(ซึ่งถือขวานอยู่)
[37:94]
แล้วพวกเขาก็รีบวิ่งมาหาเขา
[37:95]
อิบรอฮีมจึงกล่าวว่า
พวกท่านเคารพภักดีสิ่งที่พวกท่านแกะสลัก
(มัน)
กระนั้นหรือ ?
[37:96]
ทั้ง
ๆ
ที่อัลลอฮ์ทรงสร้างพวกท่านและสิ่งที่พวกท่านประดิษฐ์มันขึ้นมา
[37:97]
พวกเขากล่าวว่า
จงสร้างสถานที่แห่งหนึ่ง
(เตาเผา)
สำหรับเขา
แล้วโยนเขาไปในไฟที่ลุกโชน
[37:98]
ดังนั้น
พวกเขาต้องการวางแผนร้ายแก่เขา
แต่เราได้ทำให้พวกเขาต่ำต้อย
[37:99]
และอิบรอฮีมกล่าวว่า
ฉันจะไปหาพระเจ้าของฉัน
แน่นอนพระองค์จะทรงแนะทางให้แก่ฉัน
[37:100]
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์
ขอพระองค์ทรงประทานบุตรที่มาจากหมู่คนดีให้แก่ข้าพระองค์ด้วย
[37:101]
ดังนั้น
เราจึงแจ้งข่าวดีแก่เขา
(ว่าจะได้)
ลูกคนหนึ่ง
ที่มีความอดทนขันติ
(คือ อิสมาอีล)
[37:102]
ครั้นเมื่อเขา
(อิสมาอีล)
เติบโตขึ้นไปไหนมาไหนกับเขา
(อิบรอฮีม)
ได้แล้ว
อิบรอฮีมได้กล่าวขึ้นว่า
โอ้ลูกเอ๋ย !
แท้จริงพ่อได้เห็นในขณะฝันว่า
พ่อได้เชือดเจ้า
จงคิดดูซิว่าเจ้าจะเห็นเป็นอย่างไร? เขากล่าวว่า
โอ่พ่อจ๋า!
พ่อจงปฏิบัติตามที่พ่อได้ถูกบัญชามาเถิด
หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์
พ่อจะเห็นฉันว่า
ฉันอยู่ในหมู่ผู้มีความอดทน
[37:103]
ครั้นเมื่อทั้งสอง
(พ่อและลูก)
ได้ยอมมอบตน
(แด่อัลลอฮ์)
อิบรอฮีมได้ให้อีสมาอีลคว่ำหน้าลงกับพื้น
[37:104]
และเราได้เรียกเขาว่า
โอ้ อิบรอฮีม
เอ๋ย!
[37:105]
แน่นอน
เจ้าได้ปฏิบัติถูกต้องตามฝันแล้ว
แท้จริง
เช่นนั้นแหละเราจะตอบแทนผู้กระทำความดีทั้งหลาย
[37:106]
แท้จริง
นั่นคือ
การทดสอบที่ชัดแจ้งแน่นอน
[37:107]
และเราได้ให้ค่าไถ่ตัวเขาด้วยสัตว์เชือดพลีอันใหญ่หลวง
[37:108]
และเราได้ปล่อยทิ้งไว้
(เกียรติคุณ)
แก่เขาในกลุ่มชนรุ่นหลัง
ๆ
[37:109]
ศานติจงมีแต่อิบรอฮีม
[37:110]
เช่นนั้นแหละ
เราจะตอบแทนผู้กระทำความดีทั้งหลาย
[37:111]
แท้จริง
เขา
(อิบรอฮีม)
เป็นคนหนึ่งในปวงบ่าวของเราผู้ศรัทธา
[37:112]
เราได้แจ้งข่าวดีแก่เขาว่า
จะได้ (ลูกคนหนึ่ง)
อิสฮาก
เป็นนบี
(จะเป็นหนึ่ง)
ในหมู่คนดีทั้งหลาย
[37:113]
และเราได้ให้ความจำเริญแก่เขาและแก่อิสฮาก
และในหมู่ลูกหลานของเขาทั้งสองนั้นมีผู้ทำความดีและมีผู้อธรรมแก่ตัวของเขาเองอย่างชัดแจ้ง
[37:114]
และโดยแน่นอน
เราได้ให้ความโปรดปรานแก่มูซาและฮารูณ
[37:115]
และเราได้ช่วยเขาทั้งสองและหมู่ชนของเขาทั้งสอง
ให้พ้นจากความเคราะห์ร้ายอันใหญ่หลวง
[37:116]
และเราได้ช่วยเหลือพวกเขา
ดังนั้น
พวกเขาจึงเป็นผู้มีชัยชนะ
[37:117]
และเราได้ประทานคัมภีร์แก่เขาทั้งสองซึ่งสมบูรณ์ชัดเจน
(เตารอฮ์)
[37:118]
และเราได้แนะนำเขาทั้งสองสู่แนวทางที่เที่ยงตรง
[37:119]
และเราได้ปล่อยทิ้งไว้
(เกียรติคุณ)
แก่เขาทั้งสองในกลุ่มชนรุ่นหลัง
ๆ
[37:120]
ศานติจงมีแด่มูซาและฮารูณ
[37:121]
แท้จริง
เช่นนั้นแหละเราจะตอบแทนผู้กระทำความดีทั้งหลาย
[37:122]
แท้จริง
เขาทั้งสองเป็นปวงบ่าวของเราผู้ศรัทธา
[37:123]
และแท้จริง
อิลยาสนั้นเป็นคนหนึ่งในบรรดาร่อซู้ล
[37:124]
เมื่อเขากล่าวแก่หมู่ชนของเขาว่า
พวกท่านไม่ยำเกรงอัลลอฮ์หรือ?
[37:125]
พวกท่านเคารพสักการะบะอ์ลฺ
(เจว็ด)
[37:126]
อัลลอฮ์คือพระเจ้าของพวกท่านและพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกท่านแต่เก่าก่อน
[37:127]
ดังนั้น
พวกเขาจะถูกนำมาลงโทษอย่างแน่นอน
[37:128]
นอกจากปวงบ่าวของอัลลอฮ์ผู้บริสุทธิ์ใจ
[37:129]
และเราได้ปล่อยทิ้งไว้
(เกียรติคุณ)
แก่เขาในกลุ่มชนรุ่นหลัง
ๆ
[37:130]
ศานติจงมีแด่วงศ์วานของยาซีน
[37:131]
แท้จริง
เช่นนั้นแหละเราจะตอบแทนผู้กระทำความดีทั้งหลาย
[37:132]
แท้จริง
เขาเป็นคนหนึ่งในปวงบ่าวของเราผู้ศรัทธา
[37:133]
และแท้จริง
ลูฏนั้นเป็นคนหนึ่งในบรรดาร่อซู้ล
[37:134]
เมื่อเราได้ช่วยเขาและพรรคพวกของเขาทั้งหมดให้รอดพ้น
[37:135]
นอกจากหญิงแก่คนหนึ่งเหลืออยู่ในหมู่ผู้รั้งท้าย
[37:136]
แล้วเราได้ทำลายล้างคนอื่น
ๆ ทั้งหมด
[37:137]
และแท้จริง
พวกเจ้าจะต้องเดินผ่าน
(ไปมา) สถานที่ของพวกเขาในยามเช้า
[37:138]
และยามค่ำคืน
ดังนั้น
แล้วพวกเจ้าจะไม่พิจารณาดูดอกหรือ?
[37:139]
และแท้จริง
ยูนุสนั้นอยู่ในหมู่ผู้ที่ถูกส่งมาเป็นร่อซู้ล
[37:140]
จงรำลึก
ขณะที่เขาได้หนีไปยังเรือที่บรรทุกผู้คนเต็มเพียบ
[37:141]
ดังนั้น
ยูนุสได้เข้าร่วมจับฉลาก
แล้วเขาจึงอยู่ในหมู่ผู้ถูกพิชิต
(แพ้ในการจับฉลาก)
[37:142]
แล้วปลาตัวใหญ่ได้กลืนเขา
และเขาสมควรที่จะถูกตำหนิ
[37:143]
หากว่าเขามิได้เป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้แซ่ซ้องสดุดีแล้ว
[37:144]
แน่นอน
เขาจะอยู่ในท้องปลาจวบจนกระทั่งวันฟื้นคืนชีพ
[37:145]
แล้วเราได้เหวี่ยงเขาขึ้นบนที่โล่งริมฝั่ง
ในสภาพที่ป่วย
[37:146]
และเราได้ให้มีต้นไม้
(พันธ์ไม้เลื้อย)
น้ำเต้างอกเงยขึ้น
ปกคลุมตัวเขา
[37:147]
และเราได้ส่งเขาไปยัง
(หมู่บ้านของเขา)
มีจำนวนหนึ่งแสนคนหรือเกินกว่านั้น
[37:148]
แล้วพวกเขาก็ศรัทธา
ดังนั้น
เราจึงปล่อยให้พวกเขามีความสุขสำราญชั่วระยะเวลาหนึ่ง
[37:149]
ดังนั้น
(มุฮัมมัด)
จงถามพวกเขาซิว่า
พระเจ้าของเจ้ามีบุตรหญิงหลายคน
และพวกเขามีบุตรชายหลายคนกระนั้นหรือ?
[37:150]
หรือว่าเราได้สร้างมลาอิกะฮ์เป็นเพศหญิง
โดยที่พวกเขารู้เห็นเป็นพยาน
[37:151]
พึงทราบเถิด
แท้จริงพวกเขานั้นเนื่องจากการกล่าวเท็จของพวกเขาพวกเขาจึงกล่าวว่า
[37:152]
อัลลอฮ์ทรงให้กำเนิดบุตรชาย!
และแท้จริงพวกเขานั้นเป็นผู้กล่าวเท็จอย่างแน่นอน
[37:153]
อัลลอฮ์ทรงเลือกบุตรหญิงแทนบุตรชายกระนั้นหรือ?
[37:154]
เกิดอะไรขึ้นแก่พวกเจ้า!
ทำไมพวกเจ้าจึงตัดสินเช่นนั้น
[37:155]
พวกเจ้ามิได้ใคร่ครวญดูบ้างหรือ?
[37:156]
หรือว่าพวกเจ้ามีหลักฐานอันชัดแจ้ง?
[37:157]
ดังนั้น
พวกเจ้าจงนำคัมภีร์ของพวกเจ้ามาแสดง
หากพวกเจ้าเป็นผู้สัตย์จริง
[37:158]
และพวกเขากล่าวอ้างความสัมพันธ์
(ทางเครือญาติ)
ระหว่างพระองค์กับพวกญินและโดยแน่นอนพวกญินรู้ดีว่าแท้จริงพวกมันจะถูกนำตัวมาปรากฏต่อหน้าอัลลอฮ์
(เพื่อการลงโทษ)
[37:159]
มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์
จากสิ่งที่พวกเขากล่าวอ้าง
[37:160]
เว้นแต่ปวงบ่าวของอัลลอฮ์ผู้ซื่อสัตย์
[37:161]
แน่นอน
พวกเจ้าและสิ่งที่พวกเจ้าเคารพบูชานั้น
[37:162]
พวกเจ้าไม่สามารถทำให้ผู้ใดหลงทางไปได้
[37:163]
นอกจากผู้ที่จะเข้าไปอยู่ในไฟอันลุกโชติช่วง
[37:164]
และไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเรา
เว้นแต่เขาได้มีตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้แล้ว
[37:165]
และแท้จริง
เรานั้นเป็นผู้ที่ยืนเข้าแถวอยู่แล้ว
[37:166]
และแท้จริง
เรานั้นเป็นผู้แซ่ซ้องสดุดีอัลลอฮ์
[37:167]
และพวกเขาเหล่านั้น
(กุฟฟารมักกะฮ์)
เคยกล่าวไว้ว่า
[37:168]
หากว่าเรามีข้อตักเตือน
(คัมภีร์)
อยู่กับเรา
เช่นเดียวกับหมู่ชนในสมัยก่อน
ๆ
[37:169]
แน่นอน
เราก็จะเป็นบ่าวของอัลลอฮ์ผู้ซื่อสัตย์
[37:170]
แต่พวกเขาปฏิเสธ
ไม่ศรัทธาต่ออัลกุรอาน
แล้วพวกเขาก็จะได้รู้เห็น
[37:171]
และโดยแน่นอน
ลิขิตของเราได้บันทึกไว้ก่อนแล้ว
แก่ปวงบ่าวของเราที่เป็นร่อซู้ล
[37:172]
ว่า
แน่นอน
พวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือ
[37:173]
และแท้จริง
ไพร่พลของเรานั้น
สำหรับพวกเขาจะเป็นผู้มีชัยชนะ
[37:174]
ดังนั้น
เจ้าจงหันเหออกจากพวกเขาชั่วระยะหนึ่ง
[37:175]
และจงเฝ้าคอยดูพวกเขาเถิด
แล้วพวกเขาก็จะเห็นมันเอง
[37:176]
พวกเขาเร่งรีบต่อการลงโทษของเรากระนั้นหรือ?
[37:177]
ครั้นเมื่อการลงโทษได้ลงมาที่หน้าบ้านพักของพวกเขา
ยามเช้าของบรรดาผู้ถูกตักเตือนนั้นมันช่างชั่วช้าเสียนี่กระไร!
[37:178]
และเจ้าจงหันเหออกจากพวกเขาระยะหนึ่ง
[37:179]
และจงเฝ้าคอยดูเถิด
แล้วพวกเขาก็จะเห็นมันเอง
[37:180]
มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระเจ้าของเจ้าพระเจ้าแห่งอำนาจจากสิ่งที่พวกเขากล่าวอ้าง
[37:181]
ศานติจงมีแด่บรรดาร่อซู้ลทั้งหลาย
[37:182]
และบรรดาการสรรเสริญทั้งมวลเป็นของอัลลอฮ์
พระเจ้าแห่งสากลโลก
Sâd
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์
ผู้ทรงเมตตา
ผู้ทรงปรานี
[38:1]
ศอด
ขอสาบานด้วยอัลกุรอานที่เป็นเครื่องเตือนสติ
[38:2]
แต่ว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่ในการหยิ่งผยองและการแตกแยก
[38:3]
กี่ศตวรรษมาแล้วที่เราได้ทำลายประชาชาติก่อนพวกเขา
แล้วพวกเขาได้ร้องเรียกขอความช่วยเหลือทั้ง
ๆ
ที่ไม่มีเวลาอีกแล้วสำหรับทางรอด
[38:4]
และพวกเขาประหลาดใจที่มีผู้ตักเตือนจากหมู่พวกเขามายังพวกเขา
และพวกปฏิเสธศรัทธาได้กล่าวว่า
นี่คือมายากร
นักโกหกตัวฉกาจ
[38:5]
เขาได้ทำให้พระเจ้าหลายองค์เป็นพระเจ้าองค์เดียวกระนั้นหรือ
? แท้จริงนี่เป็นเรื่องประหลาดจริง
ๆ
[38:6]
และพวกหัวหน้าของพวกเขาพากันออกไป
(พลางกล่าวว่า)
จงก้าวหน้าต่อไปและอดทน
ในการยึดมั่นต่อบรรดาพระเจ้าของพวกท่านต่อไป!
แท้จริงเป็นเรื่องที่ถูกวางแผนไว้แล้ว
[38:7]
เราไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนในศาสนาสุดท้าย
นี่มิใช่อื่นใด
นอกจากเป็นการเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาเท่านั้น
[38:8]
ได้มีข้อตักเตือน
(อัลกุรอาน)
ถูกประทานลงมาแก่เขา
แทนพวกเรากระนั้นหรือ
? หามิได้
พวกเขาอยู่ในการสงสัยจากข้อตักเตือนของข้า
! ไม่เพียงแต่เท่านั้น
พวกเขายังมิได้ลิ้มรสการลงโทษของข้า
!
[38:9]
หรือว่า
ณ
ที่พวกเขามีขุมคลังแห่งความเมตตาของพระเจ้าของเจ้า
ผู้ทรงอำนาจ
ผู้ทรงประทานให้อย่างมากมาย
[38:10]
หรือว่าอำนาจแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน
และที่อยู่ระหว่างทั้งสองเป็นของพวกเขา
ดังนั้น จงให้พวกเขาขึ้นไปหาสาเหตุกันเถิด
[38:11]
(พวกเขา)
เป็นไพร่พลจากแนวร่วมต่าง
ๆ จะพ่ายแท้หนีเตลิดไปในไม่ช้านี้
[38:12]
ก่อนหน้าพวกเขา
หมู่ชนของนูห์และอ๊าด
และฟิรเอาน์เจ้าของเสาหมุด
ได้ปฏิเสธมาแล้ว
[38:13]
และษะมูด
และหมู่ชนของลูฏ
และชาวป่าทึบ
ชนเหล่านี้เป็นแนวร่วม
[38:14]
ไม่มีคนหนึ่งคนใด
(ในพวกเขา)
เว้นแต่ปฏิเสธบรรดาร่อซู้ล
ดังนั้น
การลงโทษของข้าจึงเหมาะสม
(แก่พวกเขา)
[38:15]
และพวกเขาเหล่านั้นมิได้คอยอันใด
นอกจากเสียงกัมปนาทเพียงครั้งเดียว
โดยไม่มีการชักช้า
[38:16]
และพวกเขากล่าวว่า
ข้าแต่พระเจ้าของเรา
ขอทรงโปรดเร่งส่วนของเราให้แก่เราโดยเร็วเถิด
ก่อนที่จะถึงวันแห่งการชำระบัญชี
[38:17]
เจ้า
(มุฮัมมัด)
จงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขากล่าว
และจงรำลึกถึงบ่าวของเรา
ดาวู๊ด ผู้ทรงพลัง
(ในการปฏิบัติศาสนกิจ)
แท้จริงเขาเป็นผู้ผินหน้าเข้าหาอัลลอฮ์เสมอ
[38:18]
แท้จริง
เราได้ทำให้ภูเขาแซ่ซ้องสดุดีพร้อมกับเขา
ทั้งในยามพลบค่ำและยามรุ่งอรุณ
[38:19]
และ
(เราได้ทำให้)
นกมารวมกันทั้งหมด
เชื่อฟังเขา
[38:20]
และเราได้ทำให้อาณาจักรของเขาเข้มแข็ง
และเราได้ให้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เขา
และการตัดสินชี้ขาดในเรื่องต่าง
ๆ
[38:21]
และมีเรื่องของผู้โต้เถียงมาถึงเจ้า
(มุฮัมมัด)
บ้างไหม ? เมื่อพวกเขาปีนข้ามกำแพงไปที่มิหฺรอบ
(ของดาวู๊ด)
[38:22]
เมื่อพวกเขาได้เข้ามาหาดาวู๊ด
เขาตกใจกลัวพวกเขา
พวกเขากล่าวว่า
อย่าได้กลัวเลย
เราคือผู้โต้เถียงสองคนคนหนึ่งในพวกเราได้ล่วงเกินอีกคนหนึ่ง
ดังนั้น
ได้โปรดตัดสินระหว่างพวกเราด้วยความยุติธรรมและอย่าได้ลำเอียงไม่เที่ยงธรรม
และจงชี้แนะเราสู่แนวทางที่เที่ยงตรง
[38:23]
แท้จริงนี่คือพี่ชายของฉัน
เขามีแกะตัวเมีย
99 ตัว
และฉันมีแกะตัวเมียตัวเดียวแล้วเขายังพูดว่า
เอามันมาให้ฉันซิ
และเขาได้ข่มขู่ฉันในคำพูด
[38:24]
เขา
(ดาวู๊ด)
กล่าวว่า
แน่นอน
เขาอธรรมต่อท่านในการขอให้นำแกะของท่านไปรวมกับแกะของเขา
และแท้จริงส่วนมากของผู้มีหุ้นส่วนร่วมกัน
บางคนในพวกเขามักละเมิดสิทธิของอีกคนหนึ่ง
เว้นแต่บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีทั้งหลาย
และพวกเขาเช่นนี้มีน้อย
และดาวู๊ดรู้สึกว่าเราได้ทดสอบเขา
ดังนั้น เขาจึงได้ขออภัยต่อพระเจ้าของเขา
และเขาได้ก้มลงรูกัวะและทบทวนความผิดด้วยความเสียใจ
[38:25]
ดังนั้น
เราได้ให้อภัยแก่เขาในเรื่องนั้น
และแท้จริง
สำหรับเขานั้นย่อมอยู่ใกล้ชิด
ณ ที่เรา และทางกลับที่ดียิ่ง
(ในปรโลก)
[38:26]
โอ้ดาวู๊ดเอ๋ย
!
เราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวแทนในแผ่นดินนี้
ดังนั้น
เจ้าจงตัดสินคดีต่าง
ๆ
ระหว่างมนุษย์ด้วยความยุติธรรม
และอย่าปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ
มันจะทำให้เจ้าหลงไปจากทางของอัลลอฮ์
แท้จริงบรรดาผู้ที่หลงไปจากทางของอัลลอฮ์นั้น
สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างสาหัส
เนื่องด้วยพวกเขาลืมวันแห่งการชำระบัญชี
[38:27]
ดังนั้น
ความหายนะคือไฟนรกจงประสบแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา
[38:28]
จะให้เราปฏิบัติต่อบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย
เช่นบรรดาผู้บ่อนทำลายในแผ่นดินกระนั้นหรือ? หรือว่าจะให้เราปฏิบัติต่อบรรดาผู้ยำเกรง
เช่นบรรดาคนชั่วกระนั้นหรือ?
[38:29]
คัมภีร์
(อัลกุรอาน)
เราได้ประทานลงมาให้แก่เจ้าซึ่งมีความจำเริญ
เพื่อพวกเขาจะได้พินิจพิจารณาอายาตต่าง
ๆของอัลกุรอานและเพื่อปวงผู้มีสติปัญญาจะได้ใคร่ครวญ
[38:30]
เราได้ประทาน
(บุตร)
คือสุลัยมานบ่าวผู้ประเสริฐแก่ดาวู๊ด
แท้จริงเขาหันหน้าเข้าสู่เราเสมอ
[38:31]
และจงรำลึกเมื่อม้าพันธุ์ดีถูกนำมาเสนอแก่เขาในยามเย็นวันหนึ่ง
[38:32]
เขากล่าวว่า
แท้จริงฉันรักทรัพย์สมบัติ
(หมายถึงม้า)
จนมันทำให้ฉันลืมการรำลึกถึงพระเจ้าของฉัน
จนกระทั่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
[38:33]
จงนำมันกลับมาให้ฉัน
แล้วเขาก็เริ่มลูบขาและคอของมัน
[38:34]
และโดยแน่นอนเราได้ทดสอบสุลัยมาน
และเราได้วางร่างหนึ่งไว้บนเก้าอี้ของเขา
แล้วเขาก็ทบทวนความผิดด้วยความเสียใจ
[38:35]
เขากล่าวว่า
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์
ขอพระองค์ทรงอภัยให้แก่ข้าพระองค์ด้วย
ขอพระองค์ทรงประทานอำนาจอันกว้างขวางแก่ข้าพระองค์
ซึ่งไม่คู่ควรแก่ผู้ใดนอกจากข้าพระองค์
แท้จริงพระองค์เท่านั้นเป็นผู้ทรงประทานให้อย่างมากมาย
[38:36]
และเราได้ทำให้ลมพัดเฉื่อย
ๆ ตามบัญชาของเขาไปยังทิศทางที่เขาต้องการ
[38:37]
และ
(เราได้ทำให้)
บรรดาชัยตอน
(อยู่ใต้คำสั่งของเขา)
พวกนั้นทั้งหมดเป็นช่างก่อสร้าง
และประดาน้ำ
[38:38]
และพวกอื่น
ๆ
ถูกพันธนาการด้วยโซ่ติดกัน
[38:39]
นี่คือการประทานให้ของเรา
(แก่สุลัยมาน)
ดังนั้นเจ้าจะให้แก่ใครก็ได้
หรือจะยับยั้งไม่ให้ใครก็ได้
โดยเจ้าจะไม่ถูกสอบสวน
[38:40]
และแท้จริง
สำหรับเขานั้นย่อมอยู่ใกล้ชิด
ณ ที่เรา
และทางกลับที่ดียิ่ง
(ในปรโลก)
[38:41]
และจงรำลึกถึงบ่าวของเรา
อัยยู๊บ
เมื่อเขาวิงวอนขอต่อพระเจ้าของเขา
โดยกล่าวว่า
ชัยตอนมารร้ายได้ทำให้ฉันได้รับความเหนื่อยยาก
และทุกข์ทรมาน
[38:42]
จงกระทืบ
(แผ่นดิน)
ด้วยเท้าของเจ้า
นี่คือน้ำเย็นสำหรับอาบชำระล้าง
และสำหรับดื่ม
[38:43]
และเราได้ประทานครอบครัวของเขาให้แก่เขา
และเช่นเดียวกับพวกเขาพร้อมพวกเขา
เป็นความเมตตาจากเราและเป็นข้อเตือนสติแด่ปวงผู้มีสติทั้งหลาย
[38:44]
และจงเอาเศษไม้สักกำหนึ่งแล้วฟาดด้วยมัน
และอย่าถอนคำสาบาน
แท้จริงเราพบว่า
เขา (อัยยู๊บ)
เป็นผู้อดทนบ่าวผู้ประเสริฐแท้จริงเขาหันหน้าเข้าสู่เราเสมอ
[38:45]
และจงรำลึกถึงปวงบ่าวของเรา
อิบรอฮีม อิสหาก
และยะอ์กู๊บ
ผู้ที่เข้มแข็งและสายตาไกล
(ในเรื่องศาสนา)
[38:46]
เราได้เลือกพวกเขาโดยเฉพาะเพื่อเตือนให้รำลึกถึงปรโลก
[38:47]
และแท้จริงพวกเขานั้น
ในทัศนะของเรา
แน่นอนอยู่ในหมู่ผู้ได้รับเลือกเพราะพวกเขาเป็นคนดี
[38:48]
และจงรำลึกถึงอิสมาอีล
และอัลยะซะอ์
และซัลกิฟลิ
และทุกคนอยู่ในหมู่ผู้ดีเลิศ
[38:49]
นี่คือข้อตักเตือน
และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงนั้น
แน่นอนทางกลับ
(ของพวกเขา)
ย่อมประเสริฐแท้
[38:50]
คือสวนสวรรค์หลากหลายอันสถาพรประตู
(ทุกบาน)
จะเปิดอ้าไว้สำหรับต้อนรับพวกเขา
[38:51]
นอนเอกเขนกอยู่ในสวนสวรรค์
พวกเขาจะเรียกเอาผลไม้
และเครื่องดื่มนานาชนิด
[38:52]
และ
ณ ที่พวกเขานั้น
มีหญิงบริสุทธิ์ผู้ลดสายตาลงต่ำ
มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
[38:53]
นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าถูกสัญญาไว้
สำหรับวันแห่งการชำระบัญชี
[38:54]
แท้จริง
นี่คือปัจจัยยังชีพของเราอย่างแน่นอน
มันจะไม่มีวันหมดสิ้น
[38:55]
ดังนั้น
และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้ละเมิดนั้น
แน่นอนทางกลับ
(ของพวกเขา)
ย่อมเลวจริง
ๆ
[38:56]
คือนรกญะฮันนัม
พวกเขาจะเข้าไปเผาไหม้ในมัน
ดังนั้นมันเป็นที่พำนักที่ชั่วช้ายิ่ง
[38:57]
นี่
(คือการลงโทษอันเจ็บแสบ)
ดังนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสมัน
(คือ)
น้ำเดือดพล่าน
และน้ำเลือดน้ำหนอง
(ของชาวนรก)
[38:58]
และ
(การลงโทษ)
ชนิดอื่นอีก
เยี่ยงการลงโทษดังกล่าวที่เท่าเทียมคู่ควรกัน
[38:59]
นี่คือฝูงชนวิ่งกรูกันไปพร้อมกับพวกเจ้า
ไม่มีการต้อนรับพวกเขาดอก
แท้จริง พวกเขาจะเข้าไปอยู่ในไฟนรก
[38:60]
พวกเขากล่าวว่า
แต่ว่าพวกท่านต่างหาก
ไม่มีการต้อนรับพวกท่าน
เพราะพวกท่านได้เตรียมตัวไว้สำหรับเรา
ดังนั้นมันเป็นที่พักอันชั่วช้า
[38:61]
พวกเขากล่าวว่า
ข้าแต่พระเจ้าของเรา
ผู้ใดที่ได้เตรียมการลงโทษนี้ไว้ให้แก่เรา
ขอพระองค์ได้ทรงโปรดเพิ่มการลงโทษแก่เขาเป็นสองเท่าในไฟนรก
[38:62]
และพวกเขากล่าวว่า
มีอะไรเกิดขึ้นแก่เรา
ทำไมเราจึงไม่เห็นชายอีกหลายคนที่เรานับพวกเขาว่า
อยู่ในหมู่ผู้เลวทรามยิ่ง?
[38:63]
เนื่องเพราะเราถือ
เอาพวกเขาเป็นที่เยาะเย้ยน่าขัน
หรือสายตาของพวกเราคลาดเคลื่อนไปจากพวกเขา
[38:64]
แท้จริง
นั่นคือความจริง
จะมีการโต้เถียงกันระหว่างชาวนรกด้วยกัน
[38:65]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
แท้จริงฉันเป็นแต่ผู้ตักเตือนเท่านั้น
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ผู้ทรงเอกะ
ผู้ทรงพิชิต
[38:66]
พระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลาย
และแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง
ผู้ทรงอำนาจ
ผู้ทรงอภัยอย่างมากหลาย
[38:67]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
นี่คือข่าวสำคัญอันยิ่งใหญ่
[38:68]
ที่พวกท่านผินหลังให้กับมัน
[38:69]
ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยในเรื่องของมลาอิกะฮ์
เมื่อพวกเขาโต้เถียงกัน
[38:70]
(เพราะ)
มิได้มีวะฮีย์ยฺแก่ฉันนอกจากว่าฉันเป็นเพียง
ผู้ตักเตือนอันชัดแจ้งเท่านั้น
[38:71]
จงรำลึกถึงขณะที่พระเจ้าตรัส
แก่มลาอิกะฮ์ว่า
แท้จริงข้าจะสร้างมนุษย์คนหนึ่งจากดิน
[38:72]
ดังนั้น
เมื่อข้าได้ทำให้เขามีรูปร่างสมส่วน
และได้เป่าวิญญาณจากข้าเข้าไปในตัวเขา
ฉะนั้นพวกเจ้าจงก้มลงสุญูดต่อเขา
[38:73]
แล้วมลาอิกะฮ์ทั้งมวลก็ได้ก้มลงสุญูด
[38:74]
นอกจากอิบลีส
มันเย่อหยิ่งจองหองและมันอยู่ในหมู่ผู้ปฏิเสธศรัทธา
[38:75]
พระองค์ตรัสว่า
อิบลีสเอ๋ย
อะไรเล่าที่ขัดขวางเจ้ามิให้เจ้าสุญูดต่อสิ่งที่ข้าได้สร้างด้วยมือทั้งสองของข้า
? เจ้าเย่อหยิ่งจองหองนักหรือ
หรือว่าเจ้าอยู่ในหมู่ผู้สูงส่ง
[38:76]
มันกล่าวว่า
ข้าพระองค์ดีกว่าเขา
พระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์จากไฟ
และทรงสร้างเขาจากดิน
[38:77]
พระองค์ตรัสว่า
ดังนั้นเจ้าจงออกไปจากที่นี่
เพราะแท้จริงเจ้าเป็นผู้ถูกขับไล่
[38:78]
และแท้จริงการสาปแช่งของข้าจงประสบแก่เจ้าจนกระทั่งวันแห่งการตอบแทน
[38:79]
มันกล่าวว่า
โอ้
พระเจ้าของข้า
พระองค์ได้โปรดประวิงเวลาให้แก่ข้าพระองค์จนถึงวันฟื้นคืนชีพด้วยเถิด
[38:80]
พระองค์ตรัสว่า
ดังนั้น
แท้จริงเจ้าอยู่ในหมู่ผู้ถูกประวิงเวลา
[38:81]
จนกระทั่งถึงวันแห่งเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
[38:82]
มันกล่าวว่า
ดังนั้นด้วยพระอำนาจของพระองค์ท่าน
แน่นอนข้าพระองค์ก็จะทำให้พวกเขาทั้งหมดหลงผิด
[38:83]
เว้นแต่ปวงบ่าวของพระองค์ในหมู่พวกเขาที่มีใจบริสุทธิ์เท่านั้น
[38:84]
พระองค์ตรัสว่า
ดังนั้นมันเป็นความจริง
และข้าจะกล่าวแต่ความจริงเท่านั้น
[38:85]
แน่นอน
ข้าจะให้นรกนั้นเต็มไปด้วยพวกเจ้า
และจากผู้ที่เชื่อฟังเจ้าในหมู่พวกเขาทั้งหมด
[38:86]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า
ฉันมิได้ขอรางวัลค่าตอบแทนจากพวกท่านในการทำหน้าที่นี้แต่อย่างใด
และฉันก็มิได้อยู่ในหมู่ผู้หลอกลวงอ้างสิทธิเลย
[38:87]
มันมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นการตักเตือนแก่ปวงมนุษย์
[38:88]
และแน่นอน
เจ้าจะรู้ข่าวคราวของอัลกุรอานในระยะเวลาอันใกล้นี้
Az-Zumar
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์
ผู้ทรงเมตตา
ผู้ทรงปรานี
[39:1]
คัมภีร์นี้เป็นการประทานลงมาจากอัลลอฮ์
ผู้ทรงอำนาจ
ผู้ทรงปรีชาญาณ
[39:2]
แท้จริงเราได้ประทานคัมภีร์มายังเจ้าด้วยสัจธรรม
ดังนั้นเจ้าจงเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์
โดยเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจในศาสนาต่อพระองค์
[39:3]
พึงทราบเถิด
การอิบาดะฮ์โดยบริสุทธิ์ใจนั้นเป็นของอัลลอฮ์องค์เดียว
ส่วนบรรดาผู้ที่ยึดถือเอาบรรดาผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮ์
โดยกล่าวว่าเรามิได้เคารพภักดีพวกเขา
เว้นแต่เพื่อทำให้เราเข้าใกล้ชิดต่ออัลลอฮ์
แท้จริงอัลลอฮ์จะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกันในเรื่องนั้น
แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงชี้นำทางแก่ผู้กล่าวเท็จ
ผู้ไม่สำนึกบุญคุณ
[39:4]
หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์จะมีพระโอรส
แน่นอนพระองค์จะทรงเลือกจากสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างมาตามที่พระองค์ทรงประสงค์มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ท่าน
พระองค์คืออัลลอฮ์
ผู้ทรงเอกะ
ผู้ทรงพิชิต
[39:5]
พระองค์ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินด้วยความจริงอันชัดแจ้ง
พระองค์ทรงให้กลางคืนคาบเกี่ยวเข้าไปในกลางวันและทรงให้กลางวันคาบเกี่ยวเข้าไปในกลางคืน
และทรงให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์
(แก่มนุษย์)
ทุกสิ่งโคจรไปตามวาระที่ได้กำหนดไว้
พึงทราบเถิด
พระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ
ผู้ทรงอภัยอย่างมาก
[39:6]
พระองค์ทรงสร้างพวกเจ้าจากชีวิตหนึ่ง
แล้วจากชีวิตนั้นทรงทำให้เป็นของคู่ครองของมัน
และทรงประทานปศุสัตว์แปดตัวเป็นคู่แก่พวกเจ้า
พระองค์ทรงสร้างพวกเจ้าในครรภ์ของมารดาพวกเจ้า
เป็นการบังเกิดครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่ในความมืดสามชั้น
นั่นคืออัลลอฮ์
พระเจ้าของพวกเจ้า
พระอำนาจเป็นสิทธิของพระองค์
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์
แล้วทำไมพวกเจ้าจึงผินหน้าไปทางอื่น!
[39:7]
หากพวกเจ้าปฏิเสธศรัทธา
ดังนั้น
แท้จริงอัลลอฮ์นั้น
ทรงพอเพียงจากพวกเจ้าและจะไม่ทรงปิติยินดีต่อการเนรคุณของปวงบ่าวของพระองค์
และหากพวกเจ้ากตัญญู
พระองค์ก็จะทรงปิติยินดีต่อพวกเจ้า
และไม่มีผู้แบกภาระคนใดที่จะแบกภาระของผู้อื่นได้
แล้วยังพระเจ้าของพวกเจ้าคือการกลับของพวกเจ้า
และพระองค์ก็จะทรงบอกเล่าพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในทรวงอก
[39:8]
และเมื่อทุกขภัยใด
ๆ
ประสบแก่มนุษย์
เขาก็จะวิงวอนขอต่อพระเจ้าของเขาเป็นผู้หันหน้าเข้าสู่พระองค์อย่างนอบน้อม
ครั้นเมื่อพระองค์ทรงประทานความโปรดปรานจากพระองค์ให้แก่เขา
เขาก็ลืมสิ่งที่เขาได้เคยวิงวอนขอต่อพระองค์มาแต่ก่อน
และเขาได้ตั้งภาคีคู่เคียงกับอัลลอฮ์เพื่อให้หลงจากทางของอัลลอฮ์
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
ท่านจงร่าเริงเพียงระยะหนึ่งต่อการปฏิเสธของท่านเถิด
แท้จริงท่านนั้นอยู่ในหมู่ชาวนรก
[39:9]
ผู้ที่เขาเป็นผู้ภักดีในยามค่ำคืน
ในสภาพของผู้สุญูด
และผู้ยืนละหมาดโดยที่เขาหวั่นเกรงต่อโลกอาคิเราะฮ์
และหวังความเมตตาของพระเจ้าของเขา
(จะเหมือนกับผู้ที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์กระนั้นหรือ?) จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
บรรดาผู้รู้และบรรดาผู้ไม่รู้จะเท่าเทียมกันหรือ? แท้จริงบรรดาผู้มีสติปัญญาเท่านั้นที่จะใคร่ครวญ
[39:10]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
โอ้ปวงบ่าวผู้ศรัทธาทั้งหลายเอ๋ย!
จงยำเกรงพระเจ้าของพวกท่านเถิด
สำหรับบรรดาผู้ทำความดีในโลกนี้คือ
(จะได้รับการตอบแทน)
ความดีและแผ่นดินของอัลลอฮ์นั้นกว้างใหญ่ไพศาล
แท้จริงบรรดาผู้อดทนนั้นจะได้รับการตอบแทนรางวัลของพวกเขาอย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องคำนวณ
[39:11]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
แท้จริงฉันได้ถูกบัญชาให้เคารพภักดีต่ออัลลอฮ์
โดยเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจในศาสนาต่อพระองค์
[39:12]
และฉันได้ถูกบัญชาให้ฉันเป็นคนแรกของปวงชนผู้นอบน้อม
[39:13]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
แท้จริงฉันกลัวการลงโทษแห่งวันอันยิ่งใหญ่
หากฉันฝ่าฝืนพระเจ้าของฉัน
[39:14]
จงกล่าวเถิด
เฉพาะอัลลอฮ์เท่านั้นที่ฉันเคารพภักดีโดยเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจในศาสนาของฉันต่อพระองค์
[39:15]
ดังนั้นพวกท่านจงสักการะบูชาตามที่พวกท่านประสงค์อื่นจากพระองค์เถิด
จงกล่าวเถิดว่า
แท้จริงบรรดาผู้ขาดทุนนั้นคือ
บรรดาผู้ที่ทำตัวของพวกเขาเอง
และครอบครัวของพวกเขาให้ขาดทุนในวันกิยามะฮ์
พึงรู้เถิดว่านั่นคือ
การขาดทุนอย่างชัดแจ้ง
[39:16]
สำหรับพวกเขานั้นมีชั้นของเปลวไฟนรกปกคลุมเหนือพวกเขา
และเบื้องล่างของพวกเขาก็มีชั้นของเปลวไฟนรกอยู่ด้วย
สิ่งนั้นแหละที่อัลลอฮ์ทรงทำให้ปวงบ่าวของพระองค์กลัว
โอ้ปวงบ่าวของข้าเอ๋ย
! จงยำเกรงต่อข้าเถิด
[39:17]
และบรรดาผู้ที่หลีกหนีให้ห่างจากพวกเจว็ดเพื่อที่จะไม่สักการะบูชามัน
และหันไปจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์
สำหรับพวกเขานั้นมีข่าวดีดังนั้นเจ้าจงแจ้งข่าวดีแก่ปวงบ่าวของข้า
[39:18]
บรรดาผู้ที่สดับฟังคำกล่าว
แล้วปฏิบัติตามที่ดีที่สุดของมัน
ชนเหล่านี้คือบรรดาผู้ที่อัลลอฮ์ทรงชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่พวกเขาและชนเหล่านี้พวกเขาคือผู้ที่มีสติปัญญาใคร่ครวญ
[39:19]
ดังนั้นผู้ที่คำมั่นสัญญาแห่งการลงโทษได้คู่ควรแก่เขาแล้ว
(เจ้าสามารถจะฮิดายะฮ์ให้แก่เขา)
กระนั้นหรือ? และเจ้าจะช่วยผู้ที่อยู่ในนรกให้รอดพ้นได้หรือ
?
[39:20]
แต่บรรดาผู้ยำเกรงพระเจ้าของพวกเขานั้น
สำหรับพวกเขาจะมีคฤหาสน์สง่าโอ่โถงเหนือขึ้นไปอีกก็มีคฤหาสน์สง่าโอ่โถงสร้างไว้
ณ
เบื้องล่างของมันมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน
(มันเป็น) ข้อสัญญาของอัลลอฮ์
อัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงบิดพริ้วสัญญา
[39:21]
เจ้ามิเห็นดอกหรือว่า
แท้จริงอัลลอฮ์ทรงหลั่งน้ำลงมาจากฟากฟ้า
แล้วทรงให้มันไหลซึมลงไปในแผ่นดินเป็นตาน้ำด้วยน้ำนั้นทรงให้พืชงอกออกมาหลายสี
แล้วมันก็จะเหี่ยวแห้ง
ดังนั้น
เจ้าจะเห็นมันกลายเป็นสีเหลือง
แล้วพระองค์ทรงทำให้มันเป็นเศษเป็นชิ้น
แท้จริงในการนั้นย่อมเป็นข้อเตือนสติแก่ผู้มีสติปัญญาทั้งหลาย
[39:22]
ผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงเปิดทรวงอกของเขาเพื่ออิสลาม
และเขาอยู่บนแสงสว่างจากพระเจ้าของเขา
(จะเหมือนกับผู้ที่หัวใจบอดกระนั้นหรือ?) ดังนั้นความวิบัติจงประสบแด่ผู้ที่หัวใจของพวกเขาแข็งกระด้างต่อการรำลึกถึงอัลลอฮ์
ชนเหล่านี้อยู่ในการหลงผิดอันชัดแจ้ง
[39:23]
อัลลอฮ์ได้ทรงประทานคำกล่าวที่ดียิ่งลงมาเป็นคัมภีร์คล้องจองกันกล่าวซ้ำกัน
ผิวหนังของบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าของพวกเขาจะลุกชันขึ้น
แล้วผิวหนังของพวกเขาและหัวใจของพวกเขาจะสงบลงเพื่อรำลึกถึงอัลลอฮ์
นั่นคือการชี้นำทางของอัลลอฮ์
พระองค์จะทรงชี้นำทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงให้เขาหลงทาง
ดังนั้นสำหรับเขาจะไม่มีผู้ชี้นำทาง
[39:24]
ดังนั้นผู้ใดที่ป้องกันใบหน้าของเขาให้พ้นจากการลงโทษอันชั่วช้าในวันกิยามะฮ์
(จะเหมือนกับผู้ที่ปลอดภัยจากการลงโทษกระนั้นหรือ?) และจะมีเสียงกล่าวแก่บรรดาผู้อธรรมว่า
จงลิ้มรสสิ่งที่พวกเจ้าแสวงหาไว้เถิด
[39:25]
บรรดาหมู่ชนก่อนหน้าพวกเขาได้ปฏิเสธมาแล้ว
ดังนั้นการลงโทษได้มีมายังพวกเขา
โดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว
[39:26]
ดังนั้น
อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาลิ้มรสความอัปยศในชีวิตของโลกนี้
และแน่นอนการลงโทษในปรโลกนั้นยิ่งใหญ่กว่า
หากพวกเขาได้รู้
[39:27]
และโดยแน่นอน
เราได้ยกไว้ในทุก
ๆ อุทาหรณ์ในอัลกุรอานนี้สำหรับมนุษย์เพื่อพวกเขาจะได้ใคร่ครวญ
[39:28]
กุรอานเป็นภาษาอาหรับ
ไม่มีการคดเคี้ยวเพื่อพวกเขาจะได้ยำเกรง
[39:29]
อัลลอฮ์ทรงยกอุทาหรณ์ชายคนหนึ่งเป็นของหุ้นส่วนหลายคน
พวกเขาขัดแย้งไม่ลงรอยกัน
และชายอีกคนหนึ่งเป็นของชายคนหนึ่งโดยเฉพาะ
ทั้งสองนี้จะเป็นอุทาหรณ์ที่เท่าเทียมกันหรือ? การสรรเสริญทั้งมวลเป็นของอัลลอฮ์
แต่ว่าส่วนมากของพวกเขาไม่รู้
[39:30]
แท้จริงเจ้าจะต้องตาย
และแท้จริงพวกเขาจะต้องตาย
[39:31]
แล้วแท้จริงพวกเจ้าในวันกิยามะฮ์จะถกเถียงกันต่อหน้าพระเจ้าของพวกเจ้า