Al-Anbiyâ’
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์
ผู้ทรงเมตตา
ผู้ทรงปรานี
[21:1]
เวลาแห่งการคิดบัญชีของมนุษย์ได้ใกล้เขามาแล้ว
โดยที่พวกเขาอยู่ในสภาพหลงลืม
เป็นผู้ผินหลังให้
[21:2]
ไม่มีข้อตักเตือนใหม่
ๆ
จากพระเจ้าของเขามายังพวกเขา
เว้นแต่ว่าพวกเขารับฟังมันและพวกเขาล้อเล่นไปด้วย
[21:3]
จิตใจของพวกเขาเผลอเรอ
และบรรดาผู้อธรรมต่างกระซิบกระซาบระหว่างกันว่า
เขา (มุฮัมมัด)
นี้มิใช่ใครอื่น
นอกจากเป็นสามัญชนเยี่ยงพวกท่าน
พวกท่านจะยอมรับมายากล
ทั้ง ๆ
ที่พวกท่านรู้เห็นอยู่ว่ามันเป็นมายากลกระนั้นหรือ
?
[21:4]
เขา
(มุฮัมมัด)
กล่าวว่า
พระเจ้าของฉันทรงรอบรู้ทุกคำพูด
ทั้งในชั้นฟ้าและแผ่นดิน
และพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน
เป็นผู้ทรงรอบรู้
[21:5]
แต่ทว่าพวกเขากล่าวว่า
มันเป็นความฝันที่สับสน
หากแต่ว่าเขาได้เสกสรรปั้นแต่งมันขึ้นหากแต่ว่าเขาเป็นกวี
ถ้าเช่นนั้น
ให้เขานำหลักฐานหนึ่งมาแสดงแก่เรา
เช่นเดียวกับบุคคลในยุคก่อน
ๆได้ถูกส่งมา
[21:6]
ไม่มีชาวเมืองใดก่อนหน้าพวกเขา
(มุชริกีนมักกะฮ์)
ซึ่งเราได้ทำลายมัน
(ชาวเมืองนั้น)
ได้ศรัทธาแล้วพวกเขา
(มุชริกีนมักกะฮ์)
จะศรัทธากระนั้นหรือ?
[21:7]
และพวกเขาปรารถนาที่จะวางแผนร้ายแก่เขา
แต่เราได้ทำให้พวกเขาประสบกับความสูญเสียมากยิ่งกว่า
[21:8]
และเรามิได้ทำให้พวกเขา
(บรรดานบี)
มีร่างกายที่ไม่ต้องการอาหาร
(เช่นมลาอิกะฮ์)
และพวกเขามิได้เป็นผู้มีชีวิตยั่งยืน
[21:9]
และเรามิได้ทำให้สัญญาเป็นที่ประจักษ์จริงแก่พวกเขา
และเราได้ให้พวกเขารอดพ้น
และผู้ที่ประสงค์
และเราได้ทำลายผู้ปฏิเสธ
ละเมิดฝ่าฝืน
[21:10]
เราขอสาบานว่า
แท้จริงเราได้ให้คัมภีร์อัลกุรอานมายังพวกเจ้า
ในนั้นมีข้อเตือนสติแก่พวกเจ้า
พวกเจ้าไม่ใช้สติปัญญาคิดบ้างดอกหรือ
[21:11]
และกี่มากน้อยแล้วที่เราได้ทำลายหมู่บ้านที่อธรรม
(ปฏิเสธการศรัทธา)
และเราได้ให้หมู่ชนอื่นเกิดขึ้นมาแทนที่หลังจากนั้น
[21:12]
เมื่อพวกเขารู้สึกว่า
การลงโทษของเราเกิดขึ้นแล้ว
พวกเขาจึงวิ่งหนีออกไป
[21:13]
(มลาอิกะฮ์พูดกับพวกนั้นว่า)
พวกท่านอย่าวิ่งหนีซิ
และจงกลับไปยังสิ่งที่พวกท่านได้รับความสำราญ
และยังที่พักของพวกท่าน
เพื่อว่าพวกท่านจะได้ถูกสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้นแก่ท่าน
[21:14]
พวกเขากล่าวว่า
โอ้
ความหายนะที่เกิดขึ้นแก่เรา
แท้จริงเรานั้นเป็นผู้อธรรม
[21:15]
ไม่ทันที่คำพูดของพวกเขาจะสิ้นสุดลง
เราก็ได้ทำลายพวกเขา
เสมือนพืชที่ถูกเก็บเกี่ยวมอดไหม้ไป
[21:16]
และเรามิได้สร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน
และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง
เพื่อการสนุกสนานอย่างไร้ประโยชน์
[21:17]
หากเราปรารถนาที่จะเอาเป็นเครื่องเล่นสนุกสนาน
เราก็จะเอามันจากที่มีอยู่ที่เรา
หากเราปรารถนาจะกระทำเช่นนั้น
[21:18]
แต่ว่าเราได้ให้ความจริงทำลายความเท็จแล้วเราก็ให้มันเสียหายไป
แล้วมันก็จะมลายสิ้นไป
และความหายนะจะประสบแก่พวกเจ้า
ในสิ่งที่พวกเจ้า
กล่าวเสกสรรปั้นแต่งต่ออัลลอฮ์
[21:19]
และเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์
ผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน
และผู้ที่อยู่
ณ ที่พระองค์
(มลาอิกะฮ์)
พวกเขาจะไม่ลำพองตนในการเคารพภักดีพระองค์
และพวกเขาจะไม่เหนื่อยหน่าย
[21:20]
พวกเขาจะแซ่ซร้องสดุดีพระองค์ในเวลากลางคืน
และกลางวัน
โดยไม่ขาดระยะ
[21:21]
แต่ทว่าพวกเขา
(มุชริกีน)
ได้ยึดถือบรรดาพระเจ้าจากพื้นดิน
โดยคิดว่าสิ่งเหล่านั้นสามารถจะให้คนตาย
ฟื้นคืนชีพมาได้กระนั้นหรือ
[21:22]
หากในชั้นฟ้าและแผ่นดินมีพระเจ้าหลายองค์
นอกจากอัลลอฮ์แล้ว
ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างแน่นอน
อัลลอฮ์พระเจ้าแห่งบัลลังก์ทรงบริสุทธิ์จากสิ่งที่พวกเขาเสกสรรปั้นแต่งขึ้น
[21:23]
พระองค์จะไม่ทรงถูกสอบถามในสิ่งที่พระองค์ทรงปฏิบัติ
และพวกเขาต่างหากที่จะถูกสอบถาม
[21:24]
พวกเขาได้ยึดถือบรรดาพระเจ้า
นอกจากพระองค์กระนั้นหรือ? จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
ขอให้พวกท่านนำหลักฐานของพวกท่านมา
นี่คือคัมภีร์ที่อยู่กับฉัน
(อัลกุรอาน)
และคัมภีร์ที่มีอยู่ก่อนหน้าฉัน
(เตารอตและอินญีล)
แต่ว่าส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่รู้ความจริง
พวกเขาจึงผินหลังเมินห่าง
[21:25]
และเรามิได้ส่งร่อซู้ลคนใดก่อนหน้าเจ้านอกจากเราได้วะฮีย์แก่เขาว่า
แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากข้า
ดังนั้นพวกเจ้าจงเคารพภักดีต่อข้า
[21:26]
และพวกเขา
(มุชริกูน)
กล่าวว่า
พระผู้ทรงกรุณาปรานีทรงยึดมลาอิกะฮ์เป็นพระบุตร
มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์
แต่ว่าพวกเขา
(มลาอิกะฮ์)
เป็นบ่าวผู้มีเกียรติ
[21:27]
พวกเขาจะไม่ชิงกล่าวคำพูดก่อนพระองค์
และพวกเขาปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์
[21:28]
พระองค์ทรงรอบรู้
สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา
และสิ่งที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา
และพวกเขาจะไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใด
นอกจากผู้ที่พระองค์ทรงพอพระทัย
และเนื่องจากความกลัวพวกเขาจึงเนื้อตัวสั่น
[21:29]
และผู้ใดในหมู่พวกเขาที่กล่าวว่า
แท้จริงฉันคือพระเจ้าอื่นจากพระองค์
เขาผู้นั้นเราจะตอบแทนลงโทษด้วยนรก
เช่นนั้นแหละเราตอบแทนบรรดาผู้อธรรม
[21:30]
และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นไม่เห็นดอกหรือว่า
แท้จริงชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้นแต่ก่อนนี้รวมติดเป็นอันเดียวกัน
แล้วเราได้แยกมันทั้งสองออกจากกัน
และเราได้ทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตมาจากน้ำ
ดังนั้นพวกเขาจะยังไม่ศรัทธาอีกหรือ
[21:31]
และเราได้ทำให้เทือกเขามั่นคงในแผ่นดินเพื่อมันจะมิได้หวั่นไหวไปกับพวกเขา
และเราได้ทำให้หุบเขาเป็นทางกว้างในแผ่นดินนั้น
เพื่อว่าพวกเขาได้ใช้เป็นทางเดินอย่างถูกต้อง
[21:32]
และเราได้ทำให้ชั้นฟ้าเป็นหลังคา
ถูกรักษาไว้ไม่ให้หล่นลงมา
และพวกเขาก็ยังผินหลังให้สัญญาณต่าง
ๆ ของมัน
[21:33]
และพระองค์ผู้ทรงสร้างกลางคืนและกลางวัน
และดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
แต่ละหน่วยโคจรตามจักรราศี
[21:34]
และเรามิได้ทำให้บุคคลใดก่อนหน้าเจ้าอยู่ยั่งยืนนาน
หากเจ้าตายไปพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ยงคงต่อไปกระนั้นหรือ
[21:35]
ทุกชีวิตย่อมลิ้มรสความตาย
และเราจะทดสอบพวกเจ้าด้วยความชั่วและความดี
และพวกเจ้าจะต้องกลับไปหาเราอย่างแน่นอน
[21:36]
และเมื่อบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา
(กุฟฟารมักกะฮ์)
พบเห็นเจ้า
พวกเขาก็ถือเอาเจ้าเป็นที่ล้อเลียน
คนนี้นะหรือที่กล่าวตำหนิพระเจ้าของพวกท่าน
ทั้ง ๆ
ที่พวกเขาก็กล่าวตำหนิพระผู้ทรงกรุณาปรานี
โดยพวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา
[21:37]
มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความรีบร้อน
ข้าจะแสดงสัญญาณต่าง
ๆ
ของข้าให้พวกเจ้าเห็น
ฉะนั้นพวกเจ้าอย่าได้เร่งข้าเลย
[21:38]
และพวกเขากล่าวว่า
เมื่อใดเล่าสัญญานี้จะเกิดขึ้น
หากพวกท่าน
เป็นผู้สัตย์จริง
[21:39]
หากบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธารู้ว่า
พวกเขาไม่สามารถที่จะป้องกันไฟจากทางด้านหน้าของพวกเขาและทางด้านหลังของพวกเขา
และพวกเขาจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ
[21:40]
แต่ว่ามันจะมาถึงพวกเขาโดยฉับพลันไม่รู้ตัว
แล้วจะทำให้พวกเขาตกใจ
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถที่จะผลักดันให้พ้นไปได้
และพวกเขาก็ไม่อาจจะประวิงเวลาต่อไปได้
[21:41]
และโดยแน่นอน
บรรดาร่อซู้ลก่อนหน้าเจ้าได้ถูกเย้ยหยันมาแล้ว
แล้วการลงโทษได้ประสบแก่บรรดาผู้ที่เย้ยหยันต่อบรรดาร่อซู้ล
ในสิ่งที่พวกเขาได้เย้ยหยัน
[21:42]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
ใครเล่าจะคุ้มกันรักษาพวกท่าน
ในเวลากลางคืนและกลางวัน
จากพระผู้ทรงกรุณาปรานี
แต่ทว่าพวกเขาเป็นผู้ผินหลังให้การรำลึกถึงพระเจ้าของพวกเขา
[21:43]
หรือว่าพวกเขามีพระเจ้าหลายองค์
นอกไปจากเรา
คอบป้องกันพวกเขา
ทั้ง ๆ
ที่พระเจ้าเหล่านั้นไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเอง
และไม่สามารถป้องกันตัวเองให้พ้นจากการลงโทษของเราได้
[21:44]
แต่ทว่า
เราได้ให้ความสุขสำรายแก่พวกเขาและบรรพบุรุษของพวกเขา
จนกระทั่งพวกเขามีอายุยั่งยืน
พวกเขาไม่เห็นดอกหรือว่า
แท้จริงเราได้มายังแผ่นดินเพื่อทำให้มันคับแคบลงจากขอบเขตของมัน
แล้วพวกเขาจะเป็นผู้ชนะอีกหรือ?
[21:45]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
แท้จริงฉันเพียงตักเตือนพวกท่านด้วยวะฮีย์เท่านั้น
แต่คนหูหนวกไม่ได้ยินเสียงเรียกร้อง
เมื่อพวกเขาถูกตักเตือน
[21:46]
และหากการลงโทษเพียงเล็กน้อยจากพระเจ้าของเจ้าประสบกับพวกเขา
แน่นอนพวกเขาก็จะกล่าวว่า
โอ้ความหายนะแก่เรา
แท้จริงเราเป็นผู้อธรรม
[21:47]
และเราตั้งตราชูที่เที่ยงธรรมสำหรับวันกิยามะฮ์
ดังนั้นจะไม่มีชีวิตใดถูกอธรรมแต่อย่างใดเลย
และแม้ว่ามันเป็นเพียงน้ำหนักเท่าเมล็ดพืชเล็ก
เราก็จะนำมันมาแสดง
และเป็นการพอเพียงแล้วสำหรับเราที่เป็นผู้ชำระสอบสวน
[21:48]
และแท้จริง
เราได้ให้แก่มูซาและฮารูน
(ซึ่งคัมภีร์เตารอฮ์)
ที่แยกระหว่างความจริงกับความเท็จและเป็นแสงสว่างแห่งดวงประทีปและข้อตักเตือนสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง
[21:49]
บรรดาผู้เกรงกลัวพระเจ้าของพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่เห็น
และพวกเขายังหวั่นกลัวต่อวันอวสานด้วย
[21:50]
และนี่คืออัลกุรอาน
เป็นการตักเตือนที่จำเริญซึ่งเราได้ให้มันลงมา
แล้วพวกเจ้ายังจะปฏิเสธมันอีกหรือ
[21:51]
และโดยแน่นอน
เราได้ให้ความเฉลียวฉลาดแก่อิบรอฮีม
แต่ครั้งก่อน
โดยที่เรารู้จักเขาดี
[21:52]
ขณะที่เขากล่าวแก่บิดาของเขาและกลุ่มชนของเขาว่า
รูปปั้นอะไรกันนี่ที่พวกท่านเฝ้าบูชากัน
[21:53]
พวกเขากล่าวว่า
เราได้พบเห็นบรรพบุรุษของเรา
เป็นผู้สักการะบูชามันก่อน
[21:54]
เขากล่าวว่า
โดยแน่นอน
พวกท่านและบรรพบุรุษของพวกท่าน
อยู่ในการหลงผิดอย่างชัดแจ้ง
[21:55]
พวกเขากล่าวว่า
ท่านได้นำความจริงมาเสนอแก่เรา
หรือท่านเป็นแต่เพียงคนหนึ่งในพวกล้อเล่น
[21:56]
เขากล่าวว่า
แต่ที่แท้จริงพระเจ้าของพวกท่าน
คือพระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน
ซึ่งพระองค์ทรงเนรมิตมัน
และฉันเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้เป็นพยานต่อการณ์นี้
[21:57]
และขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮ์
แท้จริง
ฉันจะวางแผนต่อต้านรูปปั้นทั้งหลายของพวกท่าน
หลังจากที่พวกท่านผินหลังกลับออกไป
[21:58]
ดังนั้น
เขาได้ทำให้มันแหลกลาญ
เหลือไว้เพียงรูปปั้นตัวใหญ่สำหรับพวกเขา
หวังว่าพวกเขาจะได้กลับไปสอบถามมัน
[21:59]
พวกเขากล่าวว่า
ใครกระทำเช่นนี้กับพระเจ้าของเรา
แท้จริง
เขาผู้นั้นอยู่ในหมู่อธรรมอย่างแน่นอน
[21:60]
พวกเขากล่าวว่า
เราได้ยินเด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าวตำหนิรูปปั้นเหล่านี้
เขามีชื่อว่าอิบรอฮีม
[21:61]
พวกเขากล่าวว่า
พวกท่านจงนำเขามาท่ามกลางสายตาของประชาชน
หวังว่าเขาทั้งหลายจะได้เป็นพยาน
[21:62]
พวกเขากล่าวว่า
เจ้าเป็นผู้กระทำเช่นนี้ต่อพระเจ้าเหล่านั้นของเรากระนั้นหรือ
อิบรอฮีมเอ๋ย!
[21:63]
เขากล่าวว่า
แต่ว่าพระเจ้าตัวใหญ่ของพวกมันนี้ต่างหากเป็นผู้กระทำมัน
พวกท่านจงถามพระเจ้าเหล่านั้นซิ
พวกมันพูดได้
[21:64]
ดังนั้น
พวกเขาก็กลับมาคิดถึงตัวของพวกเขาเอง
แล้วกล่าวขึ้นว่าแท้จริงพวกท่านนั่นแหละเป็นผู้อธรรม
[21:65]
ครั้นแล้วศีรษะของพวกเขาก็ก้มลงมา
(อยู่ในสภาพคอตก)
แล้วกล่าวว่า
ท่าน
ก็รู้ดีอยู่แล้วว่ารูปปั้นเหล่านั้นพูดไม่ได้
[21:66]
เขากล่าวว่าพวกท่านเคารพภักดีสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ์
ที่มันไม่ให้คุณแก่พวกท่านและไม่ให้โทษแก่พวกท่านแต่อย่างใดเลย
กระนั้นหรือ?
[21:67]
เป็นที่น่ารังเกียจแก่พวกท่าน
และสิ่งที่พวกท่านเคารพบูชาอื่นจากอัลลอฮ์
พวกท่านไม่มีสติปัญญาหรือ?
[21:68]
พวกเขากล่าวว่า
จงเผาเขาเสีย
และจงช่วยเหลือพระเจ้าทั้งหลายของพวกท่าน
หากพวกท่านจะกระทำเช่นนั้น
[21:69]
เรา
(อัลลอฮ์)
กล่าวว่า
ไฟเอ๋ย !
จงเย็นลง และให้ความปลอดภัยแก่อิบรอฮีมเถิด
[21:70]
และพวกเขาปรารถนาที่จะวางแผนร้ายแก่เขา
แต่เราได้ทำให้พวกเขาประสบกับความสูญเสียมากยิ่งกว่า
[21:71]
และเราได้ให้เขา
(อิบรอฮีม)
และลูฏ
(หลายชาย-ลูกของพี่ชาย)
รอดพ้นไปสู่แผ่นดินซึ่งเราได้ให้มีความจำเริญอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินนั้นแก่บรรดาชาติต่าง
ๆ
[21:72]
และเราได้ให้บุตรชื่ออิสฮากแก่เขา
และยะอ์กูบ
(หลาน)
เป็นการเพิ่มพูน
และทั้งหมดนั้นเราได้ให้เป็นคนดีมีคุณธรรม
[21:73]
และเราได้แต่งตั้งพวกเขาให้เป็นผู้นำเพื่อชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องโดยคำสั่งของเรา
และเราได้วะฮีย์แก่พวกเขาให้ปฏิบัติความดี
และธำรงการละหมาด
แล้วบริจาคทานซะกาต
และพวกเขาก็เป็นผู้เคารพภักดีต่อเราเท่านั้น
[21:74]
และลุฏนั้นเราได้ให้การเป็นนบี
และวิชาความรู้แก่เขา
และเราได้ให้เขารอดพ้นจากหมู่บ้านนั้น
ซึ่งชาวบ้านได้กระทำความชั่ว
แท้จริงพวกเขาเป็นหมู่ชนที่ชั่วช้าและฝ่าฝืน
[21:75]
และเราได้ให้เขาเข้าอยู่ในความเมตตาของเรา
แท้จริงเขาเป็นคนหนึ่งในหมู่คนดี
[21:76]
และจงรำลึกถึงเรื่องราวของนูห์
เมื่อเขาได้ร้องเรียน
(ต่ออัลลอฮ์)
ก่อนหน้าหนี้
แล้วเราได้ตอบรับการร้องเรียกแก่เขา
และเราได้ช่วยให้เขาและพรรคพวกของเขา
รอดพ้นจากความทุกข์ระทมอันใหญ่หลวง
[21:77]
และเราได้ช่วยเหลือเขาให้รอดพ้นจากหมู่ชนที่ปฏิเสธต่อโองการของเรา
แท้จริงพวกเขาเป็นหมู่ชนที่ชั่วช้า
แล้วเราได้ให้พวกเขาทั้งหมดจมน้ำตาย
[21:78]
และจงรำลึกถึงเรื่องราวของดาวูดและสุลัยมาน
เมื่อเขาทั้งสองได้ตัดสินใจเรื่องไร่นาเมื่อฝูงแกะของชนหมุ่หนึ่งได้หลบเข้าไปกินพืชในเวลากลางคืน
และเราเป็นพยานต่อการตัดสินของพวกเขา
[21:79]
ดังนั้น
เราได้ดลใจให้สุลัยมานเข้าใจการตัดสินนั้น
และเราได้ให้ความเฉลียวฉลาดและวิชาความรู้ที่หลักแหลมแก่แต่ละคน
และเราได้ทำให้ภูเขาและนกแซ่ซร้องสดุดีร่วมกับดาวูด
และเราเป็นผู้กระทำสิ่งเหล่านี้
[21:80]
และเราได้สอนเขาให้รู้การทำเสื้อเกราะแก่พวกเจ้า
เพื่อป้องกันเจ้าจากการรบพุ่งกัน
แล้วพวกเจ้าจะเป็นผู้กตัญญูขอบคุณบ้างไหม
?
[21:81]
และสำหรับสุลัยมาน
เราได้ทำให้ลมกลายเป็นพายุ
ตามคำบัญชาของเขา
ไปยังดินแดนซึ่งเราได้ให้ความจำเริญ
ณ ที่นั้น
และเราเป็นผู้รอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
[21:82]
และเราได้ให้ชัยตอนบางตัวดำน้ำให้สุลัยมาน
และพวกเขาทำงานอื่นจากนั้น
และเราเป็นผู้คุ้มกันรักษาพวกเขาเหล่านั้น
[21:83]
และจงรำลึกถึงเรื่องราวของอัยยูบ
เมื่อเขาได้ร้องเรียนพระเจ้าของเขาว่า
แท้จริงข้าพระองค์นั้น
ความทุกข์ยากได้ประสบแก่ข้าพระองค์และพระองค์เท่านั้นเป็นผู้ทรงเมตตายิ่ง
ในหมู่ผู้เมตตาทั้งหลาย
[21:84]
ดังนั้น
เราได้ตอบรับการร้องเรียนของเขาแล้วเราได้ปลดเปลื้องสิ่งที่เป็นความทุกข์ยากแก่เขา
และเราได้ให้ครอบครัวของเขาแก่เขา
และเช่นเดียวกับที่เขาได้เคยมีมาก่อน
(เช่น
บุตรหลานและพวกพ้อง)
เป็นความเมตตาจากเรา
และเป็นข้อตักเตือนแก่บรรดาผู้ที่เคารพภักดี
[21:85]
และจงรำลึกถึงเรื่องราวของอิสมาอีลและอิดรีส
และซัลกิฟลิ
แต่ละคนอยุ่ในหมู่ผู้อดทนขันติ
[21:86]
และเราได้ให้พวกเขาเข้าอยู่ในความเมตตาของเรา
แท้จริงพวกเขาอยู่ในหมุ่คนดีมีคุณธรรม
[21:87]
และจงรำลึกถึงเรื่องราวของซันนูน
(นบียูนุส)
เมื่อเขาจากไปด้วยความโกรธพรรคพวกของเขา
แล้วเขาคิดว่าเราจะไม่ทำให้เขาได้รับความลำบาก
แล้วเขาก็ร้องเรียนท่านกลางความมืดทึบทะมึนว่า
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากกพระองค์ท่าน
มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ท่าน
แท้จริงข้าพระองค์เป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้อธรรมทั้งหลาย
[21:88]
ดังนั้นเราได้ตอบรับการร้องเรียนของเขาและเราได้ช่วยให้เขารอดพ้นจากความทุกข์ระทมและเช่นเดียวกันนี้
เราช่วยบรรดาผู้ศรัทธา
[21:89]
และจงรำลึกถึงเรื่องราวของซะกะรียาเมื่อเขาไร้องเรียนพระเจ้าของเขาว่า
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ของพระองค์ทรงอย่าปล่อยให้ข้าพระองค์อยู่อย่างเดียวดาย
และพระองค์ท่านเท่านั้นเป็นผู้สืบมรดกอันดียิ่ง
[21:90]
ดังนั้นเราได้ตอบรับการร้องเรียนแก่เขา
และเราได้ประทานบุตรแก่เขาคือยะฮ์ยา
และเราได้ปรับปรุงแก้ไขภริยาของเขาให้เป็นปกติแก่เขา
แท้จริงพวกเขา
แข่งขันกันในการทำความดีและพวกเขาวิงวอนเราด้วยความหวังในการลงโทษของเรา
และพวกเขาเป็นผู้ถ่อมตัวเกรงกลัวต่อเรา
[21:91]
และจงรำลึกถึงสตรีที่รักษาความบริสุทธิ์ของนางเอาไว้
แล้วเราได้เป่าวิญญาณของเราเข้าไปในนาง
และเราได้ทำให้นางและบุตรของนางเป็นสัญญาณหนึ่งแก่มวลมนุษย์
[21:92]
แท้จริง
นี่คือประชาชาติของพวกเจ้า
ซึ่งเป็นประชาชาติเดียวกัน
และข้าเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า
ดังนั้นพวกเจ้าจงเคารพภักดีข้าเถิด
[21:93]
และพวกเขาได้แตกแยกกันในเรื่องของศาสนาระหว่าเขากันเอง
ทั้งหมดนี้พวกเขาจะเป็นผู้กลับไปหาเรา
[21:94]
ดังนั้นผู้ใดประกอบกรราดีทั้งหลาย
โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา
สำหรับการอุตสาหะวิริยะของเขาจะไม่ถูกปฏิเสธ
และแท้จริงเราเป็นผู้บันทึกความดีสำหรับเขา
[21:95]
และเป็นที่ห้ามแก่ชาวเมือง
ที่เราได้ทำลายเมืองนั้นแล้วว่า
แน่นอนพวกเขาจะไม่กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก
[21:96]
จนกระทั่งเมื่อยะอ์ญูจญ์
และมะอ์ญูจญ์ถูกปล่อยออกมาจากกำแพง
และพวกเขาจะหลั่งไหลกันลงมาจากทุกทิศทาง
[21:97]
และเมื่อสัญญาแห่งความจริงได้ใกล้เข้ามา
ขณะนั้นเรื่องของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาคือสายตาของบรรดาผู้ปฏิเสธจะจ้องเขม็งแล้ว
กล่าวว่า
โอ้ความหายนะของเรา
! แน่นอนยิ่งเราอยู่ในความหลงลืม
(จากทางหลับที่น่ากลัวนี้)
ยิ่งกว่านั้นเรายังเป็นผู้อธรรมอีกด้วย
[21:98]
แท้จริงพวกเจ้า
(มุชริกีน)
และสิ่งที่พวกเจ้าเคารพบูชาอื่นจากอัลลอฮ์นั้น
ทั้งหมดนั้นเป็นเชื้อเพลิงของนรก
โดยพวกเจ้าจะเข้าไปอยู่ในนั้น
[21:99]
หากมันเหล่านั้นเป็นพระเจ้าจริงแล้วมันจะไม่เข้าไปอยู่ในนั้น
และทั้งหมดจะเข้าอยู่ในนั้นอย่างถาวร
[21:100]
สำหรับพวกเขาในนรกนั้นมีแต่เสียงครวญครางและพวกเขาในนรกนั้นจะไม่ได้ยินมันเลย
[21:101]
แท้จริงบรรดาผู้ที่ความดีจากเราได้ประสบแก่พวกเขามาก่อนนั้น
ชนเหล่านั้นเป็นผู้ที่อยู่ห่างไกลจากมัน
[21:102]
พวกเขาจะไม่ได้ยินแม้แต่เสียงแผ่วเบาของมันและพวกเขาจะอยู่ในสวนสวรรค์อย่างถาวรตามที่จิตใจของพวกเขาปรารถนา
[21:103]
ความตื่นตระหนกอันยิ่งใหญ่จะไม่ทำให้พวกเขาเศร้าโศก
และมลาอิกะฮ์จะพบพวกเขาแล้วกล่าวว่า
นี่คือวันของพวกท่านซึ่งพวกท่านได้ถูกสัญญาไว้
[21:104]
วันซึ่งเราจะม้วนชั้นฟ้า
ประหนึ่งการม้วนแผ่นกระดาษสำหรับการบันทึก
ดังเช่นที่เราได้เริ่มให้มีการบังเกิดครั้งแรก
เราจะให้มันกลับเป็นขั้นมาอีก
เป็นสัญญาผูกพันกับเรา
แท้จริงเราเป็นผู้กระทำอย่างแน่นอน
[21:105]
และแท้จริงนั้นเราได้บันทึกไว้ในคัมภีร์อัซซะบูร
หลังจากที่เราได้บันทึกไว้ในลูห์มะห์ฟูซว่า
แผ่นดินนั้นปวงบ่าวของเราที่ดีมีคุณธรรมจะเป็นผู้สืบมรดกมัน
[21:106]
แท้จริงในการกล่าวไว้เช่นนี้
เป็นการเพียงพอสำหรับหมู่ชนที่เคารพภักดีต่ออัลลอฮ์
[21:107]
และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย
[21:108]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
แท้จริงฉันได้รับวะฮีย์มา
ให้ประกาศว่า
แท้จริงพระเจ้าของพวกท่านนั้นคือพระเจ้าองค์เดียว
ดังนั้นพวกท่านยังมิยอมนอนน้อมอีกหรือ?
[21:109]
หากพวกเขาผินหลังให้
ก็จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า
ฉันได้ประกาศแจ้งให้พวกท่านทราบแล้วโดยถ้วนหน้า
และฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกท่านถูกสัญญาไว้นั้น
จะอยู่ใกล้หรือไกล
[21:110]
แท้จริงพระองค์ทรงรอบรู้คำพูดที่เปิดเผยและทรงรอบรู้สิ่งที่พวกท่านปิดบังไว้
[21:111]
และฉันก็ไม่รู้
หวังว่าการประวิงเวลา
อาจจะเป็นการทดสอบแก่พวกท่าน
และอาจจะเป็นการร่าเริงชั่วขณะหนึ่ง
[21:112]
เขา
(มุฮัมมัด)
กล่าวว่า
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์
ขอพระองค์ทรงชี้ขาดตัดสินแก่เราด้วยความจริง
และพระเจ้าของเรา
คือ
พระผู้ทรงกรุณา
ปรานี
ผู้ทรงถูกขอความช่วยเหลือต่อสิ่งที่พวกท่านกล่าวหา