Al-Anfâl
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์
ผู้ทรงเมตตา
ผู้ทรงปรานี
[8:1]
พวกเขาจะถามเจ้า
เกี่ยวกับบรรดาทรัพย์สินเชลย
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า บรรดาทรัพย์สินเชลยนั้นเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์
และของร่อซู้ล
ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด
และจงปรับปรุงความสัมพันธ์
ระหว่างพวกท่าน
และจงเชื่อฟังอัลลอฮ์
และร่อซู้ลของพระองค์เถิด
หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา
[8:2]
แท้จริงบรรดาผู้ที่ศรัทธานั้น
คือ ผู้ที่เมื่ออัลลอฮ์ถูกกล่าวขึ้นแล้ว
หัวใจของพวกเขาก็หวั่นเกรง
และเมื่อบรรดาโองการของพระองค์ถูกอ่านแก่พวกเขา
โองการเหล่านั้นก็เพิ่มพูนความศรัทธาแก่พวกเขา
และแด่พระเจ้าของพวกเขานั้นพวกเขามอบหมายกัน
[8:3]
คือบรรดาผู้ที่ดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและส่วนหนึ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา
พวกเขาก็บริจาค
[8:4]
ชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือ
ผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง
โดยที่พวกเขาจะได้รับหลายชั้น
ณพระเจ้าของพวกเขา
และจะได้รับการอภัยโทษและปัจจัยยังชีพอันมากมาย
[8:5]
เช่นเดียวกับการที่พระเจ้าของเจ้าให้เจ้าออกไปจากบ้านของเจ้า
เนื่องด้วยความจริง
และแท้จริงกลุ่มหนึ่งจากบรรดาผู้ศรัทธานั้นรังเกียจ
[8:6]
พวกเขาโต้เถียงกับเจ้าในความจริง
หลังจากที่มันได้ประจักษ์ขึ้น
ประหนึ่งว่าพวกเขาถูกต้อนไปสู่ความตายโดยที่พวกเขากำลังมองดูกันอยู่
[8:7]
และจงรำลึกขณะที่อัลลอฮ์ได้ทรงสัญญาไว้แก่พวกเขา
ซึ่งหนึ่งในสองกลุ่มว่า
มันเป็นของพวกเจ้า
และพวกเจ้าชอบที่จะให้กลุ่มที่ไม่มีกำลังอาวุธนั้นเป็นของพวกเจ้า
แต่อัลลอฮ์ทรงต้องการให้ความจริง
ประจักษ์เป็นจริงขึ้นด้วย
พจนารถของพระองค์
และพระองค์ทรงตัดขาดซึ่งคนสุดท้ายของผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย
[8:8]
เพื่อพระองค์จะทรงให้สิ่งที่เป็นจริงได้ประจักษ์เป็นความจริง
และให้สิ่งเท็จ
ได้ประจักษ์เป็นสิ่งเท็จ
และแม้ว่าบรรดาผู้กระทำความผิด
ไม่พอใจก็ตาม
[8:9]
จงรำลึกขณะที่พวกเจ้าขอความช่วยเหลือยามคับขันต่อพระเจ้าของพวกเจ้า
แล้วพระองค์ก็ได้ทรงรับสนองแก่พวกเจ้าว่า
แท้จริงข้าจะช่วยพวกเจ้าด้วยมลาอิกะฮ์หนึ่งพันตน
โดยทยอยกันลงมา
[8:10]
และอัลลอฮ์นั้นมิได้ทรงให้มันมีขึ้นนอกจากเป็นข่าวดีเท่านั้น
และเพื่อว่าหัวใจของพวกเจ้าจะได้สงบขึ้นด้วยสิ่งนั้น
และไม่มีการช่วยเหลือ
นอกจากที่มาจากที่อัลลอฮ์เท่านั้น
แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ
ผู้ทรงปรีชาญาณ
[8:11]
จงรำลึกขณะที่พระองค์ทรงให้มีการงีบหลับครอบงำพวกเจ้า
ด้วยความปลอดภัยจากพระองค์
และทรงให้น้ำลงมาแก่พวกเจ้าจากฟากฟ้าเพื่อทรงชำระพวกเจ้าด้วยน้ำนั้น
และทรงให้หมดไปจากพวกเจ้าด้วยความโสมมของชัยฏอน
และเพื่อที่จะทรงผูกหัวใจของพวกเจ้า
และทรงให้เท้ามั่นคงด้วยน้ำนั้น
[8:12]
จงรำลึกขณะที่พระเจ้าของพวกเจ้าประทานโองการแก่มลาอิกะฮ์ว่า
แท้จริงข้านั้นร่วมอยู่กับพวกเจ้าด้วย
ดังนั้นพวกเจ้าจงทำให้บรรดาผู้ศรัทธามั่นคงเถิด
ข้าจะโยนความกลัวเข้าไปในหัวใจของบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา
แล้วพวกเจ้าจงฟันลงบนก้านคอ
และจงฟันทุกๆส่วนปลายของนิ้วมือ
จากพวกเขา
[8:13]
นั่นก็เพราะว่าพวกเขาฝ่าฝืนและต่อต้านอัลลอฮ์
และร่อซู้ลของพระองค์
และผู้ใดฝ่าฝืนและต่อต้านอัลลอฮ์
และร่อซู้ลของพระองค์แล้วแท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรุนแรงในการลงโทษ
[8:14]
นั่นแหละ
พวกเจ้าจงลิ้มรสมันเถิด
และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น
คือ
การลงโทษแห่งไฟนรก
[8:15]
บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย!
เมื่อพวกเจ้าพบบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเคลื่อนมา
พวกเจ้าจงอย่าหันหลังหนีพวกเขา
[8:16]
และใครที่หันหลังของเขาหนีพวกเขาในวันนั้น
ยกเว้นผู้ที่เปลี่ยนที่ทำการสู้รบ
หรือผู้ที่ไปร่วมกับอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
แน่นอนเขาย่อมนำความกริ้วโกรธจากอัลลอฮ์กลับไป
และที่อยู่ของเขานั้นคือญะฮันนัม
และเป็นที่กลับไปที่เลวร้าย
[8:17]
พวกเจ้ามิได้ฆ่าพวกเขา
แต่ทว่าอัลลอฮ์ต่างหากที่ทรงฆ่าพวกเขา
และเจ้ามิได้ขว้างดอกขณะที่เจ้าขว้าง
แต่ทว่าอัลลอฮ์ต่างหากที่ขว้างและเพื่อว่าพระองค์จะทรงทดสอบบรรดาผู้ศรัทธาอย่างดีงามจากพระองค์
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงได้ยินทรงรอบรู้
[8:18]
นั่นแหละ
และแท้จริงอัลลอฮ์นั้น
คือผู้ทำให้อ่อนแอซึ่งกลอุบายของผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย
[8:19]
หากพวกเจ้าขอให้มีการชี้ขาด
แน่นอนการชี้ขาดนั้นก็ได้มายังพวกเจ้าแล้ว
และถ้าหากพวกเจ้าหยุดยั้ง
มันก็เป็นการดีแก่พวกเจ้า
และหากพวกเจ้ากลับ
(ทำการรุกรานอีก)
เราก็จะกลับ
(ช่วยเหลือให้พวกเจ้าแพ้อีก)
พรรคพวกของเจ้านั้นไม่สามารถที่จะอำนวยประโยชน์อย่างใดให้แก่พวกเจ้าได้เลย
และแม้ว่าพวกเขาจะมากมายก็ตามและแท้จริงอัลลอฮ์นั้น
อยู่ร่วมกับผู้ศรัทธา
ทั้งหลาย
[8:20]
บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย!
จงเชื่อฟังอัลลอฮ์
และร่อซู้ลของพระองค์เถิด
และจงอย่าได้ผินหลังให้แก่เขา
ขณะที่พวกเจ้าฝังกันอยู่
[8:21]
และพวกเจ้าอย่าเป็นเช่นบรรดาผู้ที่กล่าวว่า
พวกเราได้ยินแล้ว
ในขณะเดียวกับพวกเขาหาได้ยินไม่
[8:22]
แท้จริงสัตว์ที่ชั่วร้ายยิ่ง
ณ อัลลอฮ์ นั้นคือ
ผู้ที่หูหนวก
ที่เป็นใบ้
ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ใช้ปัญญา
[8:23]
และหากอัลลอฮ์ทรงรู้ว่าในตัวพวกเขานั้นมีความดี
แน่นอนก็จะทรงให้พวกเขาได้ยิน
และหากพระองค์ทรงให้พวกเขาได้ยินแล้ว
แน่นอนพวกเขาก็ผินหลังให้
โดยที่พวกเขาเป็นผู้ผินหลังให้อยู่แล้ว
[8:24]
บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย!
จงตอบรับอัลลอฮ์
และร่อซู้ลเถิด
เมื่อเขาได้เชิญชวนพวกเจ้าสู่สิ่งที่ทำให้พวกเจ้ามีชีวิตชีวาขึ้น
และพึงรู้เถิดว่า
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นจะทรงกั้นระหว่างบุคคลกับหัวใจของเขา
และแท้จริงยังพระองค์นั้นพวกเจ้าจะถูกนำกลับไปชุมนุม
[8:25]
และพวกเจ้าจงระวังการลงโทษ
ซึ่งมันจะไม่ประสบกับบรรดาผู้อธรรมในหมู่พวกเจ้าโดยเฉพาะเท่านั้น
และพึงรู้เถิดว่า
แท้จริงอัลลอฮ์นั้น
เป็นผู้รุนแรงในการลงโทษ
[8:26]
และพวกเจ้าจงรำลึก
ขณะที่พวกเจ้ามีจำนวนน้อยซึ่งเป็นผู้อ่อนแอในแผ่นดิน
โดยที่พวกเจ้ากลัวว่าผู้คนจะโฉบเฉี่ยวพวกเจ้าไป
แล้วพระองค์ได้ทรงโปรดให้พวกเจ้ามีที่พักพิง
และได้ทรงสนับสนุนพวกเจ้าด้วยการช่วยเหลือของพระองค์
และได้ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าจากสิ่งที่ดีๆทั้งหลาย
เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ขอบคุณ
[8:27]
บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย!
จงอย่าทุจริตต่ออัลลอฮ์
และร่อซู้ล
และจงอย่าทุจริตต่อบรรดาของฝากของพวกเจ้า
โดยที่พวกเจ้ารู้กันอยู่
[8:28]
และพึงรู้เถิดว่า
แท้จริงทรัพย์สินของพวกเจ้า
และลูกๆของพวกเจ้านั้น
เป็นสิ่งทดสอบชนิดหนึ่งเท่านั้น
และแท้จริงอัลลอฮ์นั้น
ณ
พระองค์มีรางวัลอันใหญ่หลวง
[8:29]
บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย!
หากพวกเจ้ายำเกรงอัลลอฮ์
พระองค์ก็จงทรงให้มีแก่พวกเจ้าซึ่งสิ่งที่จำแนกความจริงและความเท็จและจะทรงลบล้างบรรดาความผิดของพวกเจ้าออกจากพวกเจ้าและจะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเจ้าด้วยและอัลลอฮ์นั้นคือผู้ทรงมีบุญคุณอันใหญ่หลวง
[8:30]
และจงรำลึกขณะที่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาวางอุบายต่อเจ้า
เพื่อกักขังเจ้า
หรือฆ่าเจ้าหรือขับไล่เจ้าออกไป
และพวกเขาวางอุบายกันและอัลลอฮ์ก็ทรงวางอุบาย
และอัลลอฮ์นั้นทรงเป็นผู้เยี่ยมกว่าในหมู่ผู้วางอุบาย
[8:31]
และเมื่อบรรดาโองการของเราถูกอ่านให้แก่พวกเขาฟัง
พวกเขาก็กล่าวว่า
เราได้ยินแล้วหากเราประสงค์
แน่นอนเราก็พูดเช่นนี้แล้ว
สิ่งนี้ใช่อื่นใดไม่
นอกจากถ้อยคำที่ถูกขีดเขียนไว้ของคนก่อนๆเท่านั้น
[8:32]
จงรำลึกขณะที่พวกเขากล่าวว่า
ข้าแต่อัลลอฮ์
หากปรากฏว่าสิ่งนี้
คือความจริงที่มาจากที่พระองค์แล้วไซร์ก็โปรดได้ทรงให้หินจากฟากฟ้าตกลงมาดังฝนแก่พวกเราด้วยเถิด
หรือไม่ก็โปรดทรงนำมาแก่เรา
ซึ่งการลงโทษอันเจ็บแสบ
[8:33]
และพระองค์อัลลอฮ์จะไม่ทรงลงโทษพวกเขา
ขณะที่เจ้าอยู่ในพวกเขา
และอัลลอฮ์จะไม่เป็นผู้ทรงลงโทษพวกเขา
ทั้งๆที่พวกเขาขออภัยโทษกัน
[8:34]
และมีอะไรแก่พวกเขากระนั้นหรือ
ที่อัลลอฮ์จะไม่ทรงลงโทษพวกเขา
ทั้งๆที่พวกเขาขัดขวางมิให้เข้ามัศยิดิลหะรอม
และพวกเขาก็มิใช้ผู้ปกครองมัศยิดนั้นด้วย
บรรดาผู้ปกครองมัศยิดนั้นใช่ใครอื่นไม่
นอกจากบรรดาผู้ยำเกรงเท่านั้น
แต่มว่าส่วนมากของพวกเขาไม่รู้
[8:35]
มิปรากฏว่า
การละหมาดของพวกเขาณ
บ้านของอัลลอฮ์นั้นเป็นอย่างอื่น
นอกจากการเป่าเสียงหวีด
และการตบมือเท่านั้น
ดังนั้นพวกเจ้า
จงลิ้มการลงโทษเถิด
เนื่องด้วยการที่พวกเจ้าปฏิเสธศรัทธา
[8:36]
แท้จริงบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้นพวกเขาจะบริจาคทรัพย์สินของพวกเขา
เพื่อขัดขวาง
(ผู้คน)
ให้ออกจากทางของอัลลอฮ์
แล้วพวกเขาก็จะบริจาคมันต่อไปภายหลังทรัพย์สินนั้นก็จะกลายเป็นความเสียใจแก่พวกเขา
แล้วพวกเขาก็จะได้รับความปราชัยด้วย
และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้นพวกเขาจะถูกต้อนไปสู่นรกญะฮันนัม
[8:37]
เพื่อที่อัลลอฮ์จะทรงแยกคนเลวออกจากคนดี
และจะทรงให้คนเลว
ซึ่งบางส่วนของ
พวกเขาอยู่บนอีกบางส่วน
โดยทรงสุมพวกเขาทั้งหมดไว้เป็นกอง
แล้วพระองค์จะทรงให้พวกเขาอยู่ในนรกญะฮันนัม
ชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้ที่ขาดทุน
[8:38]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
แก่บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาว่า
หากพวกเขาหยุดยั้ง
สิ่งที่แล้วมาก็จะถูกอภัยให้แก่พวกเขา
และหากพวกเขากลับ
(ต่อต้าน) อีก
แท้จริงนั้น
แนวทางของคนก่อนๆนั้นได้ผ่านมาแล้ว
[8:39]
แล้วพวกเจ้าจงสู้รบกับพวกเขา
จนกว่าจะไม่มีการปฏิเสธศรัทธาใดๆปรากฏขึ้น
และการอิบาดะฮ์ทุกชนิดนั้นจะต้องเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์เท่านั้น
ถ้าหากพวกเขาหยุดยั้ง
แน่นอนอัลลอฮ์นั้นทรงเห็นในสิ่งที่พวกเขากระทำ
[8:40]
และหากพวกเขาผินหลังให้
ก็พึงรู้เถิดว่า
แท้จริงอัลลอฮ์นั้น
คือผู้ทรงคุ้มครองพวกเจ้าผู้ทรงคุ้มครองที่ดีเลิศ
และผู้ทรงช่วยเหลือที่ดีเยี่ยม
PART 10
[8:41]
และพึงรู้เถิดว่า
แท้จริงสิ่งใดที่พวกเจ้าได้มาจากการทำศึกนั้น
แน่นอนหนึ่งในห้าของมันเป็นของอัลลอฮ์
และเป็นของร่อซู้ล
และเป็นของญาติที่ใกล้ชิด
และบรรดาเด็กกำพร้า
และบรรดาผู้ขัดสน
และผู้เดินทาง
หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮ์และสิ่งที่เราได้ให้ลงมาแก่บ่าวของเราในวันแห่งการจำแนกระหว่างการศรัทธา
และการปฏิเสธ
คือวันที่สองฝ่ายเผชิญกัน
และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
[8:42]
จงรำลึกขณะที่พวกเจ้าอยู่ในด้านหุบเขาที่กว้างกว่าและพวกเขาอยู่ด้านหุบเขาที่ไกลกว่าและกองคาราวานนั้นอยู่ต่ำกว่าพวกเจ้า
และถ้าหากพวกเจ้าต่างได้สัญญากัน
แน่นอนพวกเจ้าก็ย่อมขัดแย้งกันแล้วในสัญญานั้น
แต่ทว่าเพื่อที่อัลลอฮ์จะได้ทรงให้งานหนึ่ง
เสร็จสิ้นไป
ซึ่งงานนั้นได้ถูกกระทำไว้แล้ว
เพื่อว่าผู้พินาศจะได้พินาศลงโดยหลักฐานอันชัดแจ้ง
และผู้มีชีวิตอยู่
จะได้มีชีวิตอยู่โดยหลักฐานอันชัดแจ้งและแท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงได้ยินผู้ทรงรอบรู้
[8:43]
จงรำลึกขณะที่อัลลอฮ์ทรงให้เจ้าเห็นพวกเขามีจำนวนน้อยกว่าในความฝันของเจ้า
และหากว่าพระองค์ทรงให้เจ้าเห็นพวกเขามีจำนวนมากแล้วไซร์
แน่นอนพวกเขาก็ย่อมย่อท้อกันและขัดแย้งกันในกิจการนั้น
แต่ทว่าอัลลอฮ์ได้ทรงให้ปลอดภัยขึ้น
แท้จริงพระองค์นั้นคือ
ผู้ทรงรอบรู้สิ่งซึ่งอยู่ในทรอวงอก
[8:44]
และจงรำลึกขณะที่พระองค์ทรงให้พวกเจ้าเห็นพวกเขามีจำนวนน้อยในสายตาของพวกเจ้า
ขณะที่พวกเจ้าได้เผชิญหน้ากัน
และทรงให้พวกเจ้ามีจำนวนน้อยในสายตาของพวกเขาเพื่อที่อัลลอฮ์จะได้ทรงให้งานหนึ่งเสร็จสิ้นไปซึ่งงานนั้นได้ถูกกระทำไว้แล้ว
และยังอัลลอฮ์นั้น
กิจการทั้งหลายจะถูกนำกลับไป
[8:45]
บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย
!
เมื่อพวกเจ้าพบกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ก็จงยืนหยัดเถิด
และจงรำลึกถึงอัลลอฮ์มากๆ
เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ
[8:46]
และจงเชื่อฟังอัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์เถิด
และจงอย่าขัดแย้งกัน
จะทำให้พวกเจ้าย่อท้อ
และทำให้ความเข้มแข็งของพวกเจ้าหมดไป
และจงอดทนเถิด
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงอยู่กับผู้ที่อดทนทั้งหลาย
[8:47]
และจงอย่าเป็นเช่นบรรดาผู้ที่ออกจากหมู่บ้านของพวกเขาไป
ด้วยความหยิ่งผยอง
และโอ้อวดผู้คน
และขัดขวางให้เขวออกจากทางของอัลลอฮ์
และอัลลอฮ์นั้นทรงล้อมสิ่งที่พวกเขากระทำกันอยู่
[8:48]
และจงรำลึกในขณะที่ชัยฏอนได้ทำให้สวยงามแก่พวกเขา
ซึ่งการงานของพวกเขา
และมันได้กล่าวว่า
วันนี้ไม่มีผู้ใดในหมู่มนุษย์ชนะพวกท่านได้
และแท้จริงนั้นฉันคือผู้ช่วยเหลือพวกท่านครั้นเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างมองเห็นกันแล้ว
มันก็กลับส้นเท้าทั้งสองของมัน
และกล่าวว่าแท้จริงฉันไม่เกี่ยวข้องกับพวกท่าน
แท้จริงฉันกำลังเห็นสิ่งที่พวกท่านไม่เห็น
แท้จริงฉันกลัวอัลลอฮ์
และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรุนแรงในการลงโทษ
[8:49]
จงรำลึกขณะที่บรรดามุนาฟิก
และบรรดาผู้ที่ในหัวใจของพวกเขามีโรคกล่าวว่า
ที่ ได้ลวงผู้คนเหล่านี้นั้นคือศาสนาของพวกเขา
และผู้ใดมอบหมายแด่อัลลอฮ์
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นคือผู้ทรงเดชานุภาพผู้ทรงปรีชาญาณ
[8:50]
และหากว่าเจ้าเห็นขณะที่มลาอิกะฮ์เอาวิญญาณของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่นั้นพวกเขาจะตีใบหน้าของพวกเขา
และหลังของพวกเขา
และ
(กล่าวว่า)
พวกเจ้าจงลิ้มการลงโทษแห่งการเผาไหม้เถิด
[8:51]
นั่นก็เนื่องจากสิ่งที่มือของพวกท่านได้ประกอบไว้ก่อน
และแท้จริงอัลลอฮ์นั้นมิใช่ผู้อธรรมแก่บ่าวทั้งหลาย
[8:52]
เช่นเดียวกับสภาพแห่งวงศ์วานของฟิร์อาวน์
และบรรดาผู้ที่ก่อนหน้าพวกเขา
ซึ่งพวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อบรรดาโองการของอัลลอฮ์แล้วอัลลอฮ์ก็ได้ทรงลงโทษพวกเขา
เนื่องด้วยบรรดาความผิดของพวกเขา
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงพลัง
และผู้ทรงรุนแรงในการลงโทษ
[8:53]
นั่นก็เพราะว่า
อัลลอฮ์มิได้ทรงเป็นผู้เปลี่ยนแปลงความกรุณาใดๆที่พระองค์ทรงประทานมันแก่กลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใด
จนกว่าพวกเขาจะได้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่ในตัวของพวกเขาเอง
และแท้จริงนั้นอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงได้ยินผู้ทรงรอบรู้
[8:54]
เช่นเดียวกับสภาพแห่งวงศ์วานฟิร์อาวน์และบรรดาผู้ก่อนหน้าพวกเขา
ซึ่งพวกเขาปฏิเสธบรรดาโองการแห่งพระเจ้าของพวกเขา
แล้วเราก็ได้ทำลายพวกเขา
เนื่องด้วยความผิดของพวกเขา
และเราได้ให้วงศ์วานฟิร์อาวน์จมน้ำตาย
และทั้งหมดนั้นพวกเขาเป็นผู้อธรรม
[8:55]
แท้จริงสัตว์โลกที่ชั่วร้ายยิ่ง
ณ อัลลอฮ์นั่นคือบรรดาผู้ที่เนรคุณ
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ศรัทธา
[8:56]
คือบรรดาผู้ที่เจ้าได้ทำสัญญาไว้กับในหมู่พวกเขา
และพวกเขาก็ทำลายสัญญาของพวกเขาในทุกครั้ง
โดยที่พวกเขาหาเกรงไม่
[8:57]
ถ้าหากเจ้าจับพวกเขาไว้ในการรบก็จงขับไล่ผู้ที่อยู่ข้างหลังพวกเขา
ด้วยการลงโทษพวกเขา
(ให้เป็นเยี่ยงอย่าง)
เพื่อว่าพวกเขาจะได้สำนึก
[8:58]
และถ้าหากเจ้าเกรงว่าจะมีการทุจริตจากพวกหนึ่งพวกใด
ก็จงโอน
(สัญญา)
กลับคืนแก่พวกเขาไปโดยตั้งอยู่บนความเท่าเทียมกัน
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นไม่ทรงชอบบรรดาผู้ที่ทุจริต
[8:59]
และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้นจงอย่าได้คิดเป็นอันขาดว่า
พวกเขาได้หนีพ้นไปแล้วแท้จริงพวกเขาไม่ทำให้อัลลอฮ์หมดความสามารถได้
[8:60]
และพวกเจ้าจงเตรียมไว้สำหรับ
(ป้องกัน) พวกเขา
สิ่งที่พวกเจ้าสามารถ
อันได้แก่กำลังอย่างหนึ่งอย่างใด
และการผูกม้าไว้
โดยที่พวกเจ้าทำให้ศัตรูของอัลลอฮ์
และศัตรูของพวกเจ้าหวั่นเกรงด้วยสิ่งนั้น
และพวกอื่นๆอีก
อื่นจากพวกเขา
ซึ่งพวกเจ้ายังไม่รู้จักพวกเขา
อัลลอฮ์ทรงรู้จักพวกเขาดี
และสิ่งที่พวกเจ้าบริจาคในทางของอัลลอฮ์นั้นไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม
สิ่งนั้นจะถูกตอบแทนแก่เจ้าโดยครบถ้วนโดยที่พวกเจ้าจะไม่ถูกอธรรม
[8:61]
และหากพวกเจ้าโอนอ่อนมาเพื่อการประนีประนอมแล้ว
เจ้าก็จงโอนอ่อนตามเพื่อการนั้นด้วย
และจงมอบหมายแต่อัลลอฮ์เถิดแท้จริงนั้นพระองค์คือผู้ทรงได้ยินทรงรอบรู้
[8:62]
และถ้าหากพวกเขาต้องการที่จะหลอกลวงเจ้า
ก็แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นที่พอเพียงแก่เจ้าแล้ว
พระองค์คือผู้ที่ได้ทรงสนับสนุนเจ้าด้วยการช่วยเหลือของพระองค์
และด้วยผู้ศรัทธาทั้งหลาย
[8:63]
และได้ทรงให้สนิทสนมระหว่างหัวใจของพวกเขา
หากเจ้าได้จ่ายสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินทั้งหมดเจ้าก็ไม่สามารถให้สนิทสนมระหว่าง
หัวใจของพวกเขาได้
แต่ทว่าอัลลอฮ์นั้นได้ทรงให้สนิทสนมระหว่างพวกเขา
และแท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ทรงเดชานุภาพ
ผู้ทรงปรีชาญาณ
[8:64]
โอ้
นบี!
อัลลอฮ์นั้นเป็นที่พอเพียงแก่เจ้า
และแก่ผู้ปฏิบัติตามเจ้าด้วย
อันได้แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย
[8:65]
โอ้
นบี!
จงปลุกใจผู้ศรัทธาทั้งหลายในการสู้รบเถิด
หากปรากฏว่าในหมู่พวกเจ้ามียี่สิบคนที่อดทน
ก็จะชนะสองร้อยคน
และหากปรากฏว่าในหมู่พวกเจ้ามีร้อยคนก็จะชนะพันคนในหมู่ผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา
เพราะพวกเขาเป็นพวกที่ไม่เข้าใจ
[8:66]
บัดนี้อัลลอฮ์ได้ทรงผ่อนผันแก่พวกเจ้าแล้ว
และทรงรู้ว่า
แท้จริงในหมู่พวกเจ้านั้นมีความอ่อนแอ
ดังนั้นหากในหมู่พวกเจ้ามีร้อยคนที่อดทนก็จะชนะสองร้อยคน
และหากในหมู่พวกเจ้ามีสองพันคนก็จะชนะสองพันคน
ด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์
และอัลลอฮ์นั้นทรงอยู่ร่วมกับผู้อดทนทั้งหลาย
[8:67]
ไม่บังควรแก่นบีคนใดที่เขาจะมีเชลยศึกไว้
จนกว่าเขาจะได้ประหัตประหารอย่างมากมายเสียก่อนในแผ่นดิน
พวกเจ้าต้องการสิ่งเล็กน้อย
แห่งโลกนี้
แต่อัลลอฮ์ทรงต้องการปรโลกและอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพผู้ทรงปรีชาญาณ
[8:68]
หากว่าไม่มีพระกำหนด
จากอัลลอฮ์ล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว
แน่นอนการลงโทษอันมหันต์ก็ประสบกับพวกเจ้าแล้ว
เนื่องในสิ่งที่พวกเจ้าเอา
[8:69]
ดังนั้นพวกเจ้าจงบริโภคสิ่งอนุมัติที่ดี
จากสิ่งที่พวกเจ้าได้มาจากการทำศึก
และพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นคือผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงเอ็นดูเมตตา
[8:70]
โอ้
นบี!
จงกล่าวแก่ผู้ที่อยู่ในมือของพวกเจ้า
จากบรรดาผู้ที่เป็นเชลยศึกเถิดว่า
หากอัลลอฮ์ทรงรู้ว่ามีความดีใดๆ
ในหัวใจของพวกท่านแล้ว
พระองค์ก็จะทรงประทานให้แก่พวกท่าน
ซึ่งสิ่งที่ดียิ่งกว่าสิ่งที่ถูกเอามาจากพวกท่านและจะทรงอภัยโทษแก่พวกท่านด้วย
และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษเป็นผู้ทรงเอ็นดูเมตตา
[8:71]
และถ้าหากพวกเขาต้องการทุจริตต่อเจ้า
ก็แท้จริงนั้นพวกเขาได้ทุจริตต่ออัลลอฮ์มาก่อนแล้ว
แล้วพระองค์ก็ทรงให้สามารถชนะพวกเขาได้
และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้
ผู้ทรงปรีชาญาณ
[8:72]
แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธา
และอพยพและต่อสู้ทั้งด้วยทรัพย์สมบัติของพวกเขา
และชีวิตของพวกเขาในทางของอัลลอฮ์
และบรรดาผู้ที่ให้ที่พักอาศัย
และช่วยเหลือนั้น
ชนเหล่านี้แหละคือบางส่วนของพวกเขาย่อมเป็นผู้ช่วยเหลืออีกบางส่วน
และบรรดาผู้ที่ศรัทธา
และมิได้อพยพนั้นก็ไม่เป็นหน้าที่แก่พวกเจ้าแต่อย่างใดในการช่วยเหลือพวกเขา
จนกว่าพวกเขาจะอพยพและถ้าหากพวกเขาขอให้เจ้าช่วยเหลือในเรื่องศาสนา
ก็จำเป็นแก่พวกเจ้าในการช่วยเหลือนั้นนอกจากในการต่อต้าน
พวกที่ระหว่างพวกเจ้ากับพวกเขามีสัญญากันอยู่
และอัลลอฮ์นั้นทรงเห็นในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน
[8:73]
และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้น
บางส่วนของพวกเขาย่อมเป็นผู้ช่วยเหลืออีกบางส่วนหากพวกเขาไม่ปฏิบัติในสิ่งนั้นแล้ว
ความวุ่นวายและความเสียหายอันใหญ่หลวงก็จะเกิดขึ้นในแผ่นดิน
[8:74]
และบรรดาผู้ที่ศรัทธา
และอพยพ
และต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์
และบรรดาผู้ที่ให้ที่พักอาศัย
และความช่วยเหลือนั้น
ชนเหล่านี้แหละ
พวกเขาคือผู้ศรัทธาโดยแท้จริง
ซึ่งพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษ
และเครื่องยังชีพอันมากมาย
[8:75]
และบรรดาผู้ที่ได้ศรัทธาที่หลัง
และได้อพยพ
และต่อสู้ร่วมกับพวกเจ้านั้น
ชนเหล่านี้แหละเป็นส่วนหนึ่งของพวกเจ้า
และบรรดาญาตินั้น
บางส่วนของพวกเขาเป็นส่วนที่สมควรต่ออีกบางส่วน
ในคัมภีร์ของอัลลอฮ์
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง