[5:18]
และบรรดาชาวยิว
และชาวคริสต์ได้กล่าวว่า
พวกเราคือบุตรของอัลลอฮ์
และเป็นที่รักใคร่ของพระองค์
จงกล่าวเถิด
(มุฮัดมัด) แล้วไฉนเล่าพระองค์จึงทรงลงโทษพวกท่าน
เนื่องด้วยความผิดทั้งหลายของพวกท่าน
มิใช่เช่นนั้นดอกพวกท่านเป็นสามัญชนในหมู่ผู้ที่พระองคืทรงบังเกิดมาต่างหาก
ซึ่งพระองค์จะทรงอภัยโทษแก่ผู้ที่พระงอค์ทรงประสงค์
และอำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้า
และแผ่นดิน
และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสองนั้น
เป็นสิทธิของอัลลอฮ์เท่านั้น
และยังพระองค์นั้นคือการกลับไป
[5:19]
บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย
! แท้จริงร่อซู้ล
ของเราได้มายังพวกเจ้าแล้ว
โดยที่เขาจะได้ชี้แจงแก่พวกเจ้า
ตามวาระสมัยที่ได้ว่างเว้นบรรดาร่อซู้ลมา
ทั้งนี้เนื่องจากการที่พวกเจ้าจะกล่าวว่า
มิได้มีผู้แจ้งข่าวดีคนใด
และผู้ตักเตือนคนใดมายังพวกเรา
แท้จริงได้มีผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือนมายังพวกเจ้าแล้ว
และอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
[5:20]
และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้กล่าวแก่ประชาชาติของเขาว่า
โอ้ประชาชาติของฉัน
! พึงรำลึกถึงความกรุณาเมตตาของอัลลอฮ์ที่มีแด่พวกท่านเถิด
เพราะว่าพระองค์ได้ทรงให้มีบรรดานบีขึ้นในหมู่พวกท่าน
และได้ทรงให้พวกท่านเป็นกษัตริย์
และได้ทรงประทานแก่พวกท่าน
สิ่งที่มิได้ทรงประทานให้แก่ผู้ใดในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย
[5:21]
โอ้ประชาชาติของฉัน
!
จงเข้าไปในแผ่นดินอันบริสุทธิ์
ที่อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดให้แก่พวกท่านเถิด
และจงอย่าหันหลังของพวกท่านกลับ
เพราะจะทำให้พวกท่านกลับกลายเป็นผู้ขาดทุน
[5:22]
พวกเขากล่าวว่า
โอ้มูซา
แท้จริงในแผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นมีพวกที่เหี้ยมโหด
และพวกเราจะไม่เข้าไปในแผ่นดินนั้นเป็นอันขาด
จนกว่าพวกเขาจะออกไปจากที่นั้น
แต่ถ้าพวกเขาออกไปจากที่นั้นแล้ว
พวกเราจึงจะเป็นผู้เข้าไป
[5:23]
มีชายสองคนในหมู่ผู้ยำเกรงที่อัลลอฮ์ได้ทรงกรุณาเมตตาแก่เขามทั้งสองได้กล่าวว่าพวกท่านจงเข้าประตูนั้นไปเผชิญหน้ากับพวกเขาเถิดครั้นเมื่อพวกท่านเข้าประตูนั้นไปแล้ว
แน่นอนพวกท่านจะเป็นผู้ชนะ
และแด่อัลลอฮ์นั้นพวกเจ้าจงมอบหมายเถิด
หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา