[5:46]
และเราได้ให้อีซาบุตรของมัรยัมตามหลังพวกเขามา
ในฐานะผู้ยืนยันสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเขาคือ
อัต-เตารอต
และเราได้ให้อัล-อินญีลแก่เขา
ซึ่งในนั้นมีคำแนะนำและแสงสว่าง
และเป็นที่ยืนยันสิ่งที่อยู่เบื้องหน้ามัน
คืออัต-เตารอต
และเป็นคำแนะนำ
และคำตักเตือนแก่ผู้ยำเกรงทั้งหลาย
[5:47]
และบรรดาผู้ที่ได้รับอัล-อินญีลก็จงตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาในนั้น
และผู้ใดที่มิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแล้ว
ชนเหล่านี้คือผู้ที่ละเมิด
[5:48]
และเราได้ให้คัมภีร์ลงมาแก่เจ้าด้วยความจริงในฐานะเป็นที่ยืนยันคัมภีร์ที่อยู่เบื้องหน้ามันและเป็นที่ควบคุมคัมภีร์
(เบื้องหน้า)
นั้น
ดังนั้นเจ้าจงตัดสินสินระหว่างพวกเขา
ด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานลงมาเถิด
และจงอย่าปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำของพวกเขา
โดยเขวออกจากความจริงที่ได้มายังเจ้า
สำหรับแต่ละประชาชาติในหมู่พวกเจ้านั้น
เราได้ให้มีบทบัญญัติและแนวทางไว้
และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์แล้วแน่นอนก็ทรงให้พวกเจ้าเป็นประชาชาติเดียวกันแล้ว
แต่ทว่าเพื่อที่จะทรงทดสอบพวกเจ้าในสิ่งที่พระองค์ได้ประทานแก่พวกเจ้า
ดังนั้นพวกเจ้าจงแข่งขันกันในความดีทั้งหลายเถิด
ยังอัลลอฮ์นั้นคือ
การกลับไปของพวกเจ้าทั้งหมด
แล้วพระองค์จะทรงแจ้งให้พวกเจ้าทราบในสิ่งที่พวกเจ้ากำลังขัดแย้งกันในสิ่งนั้น
[5:49]
และเจ้า
จงตัดสินระหว่างพวกเขาด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาเถิด
และจงอย่าปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำของพวกเขา
และจงระวังพวกเขา
ในการที่พวกเขาจะจูงใจเจ้าให้เขวออกจากบางสิ่ง
ที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแก่เจ้า
แล้วถ้าหากพวกเจ้าผินหลังให้
ก็พึงรู้เถิดว่า
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเพียงประสงค์จะให้ประสบแก่พวกเขาซึ่งบางส่วนแห่งโทษของพวกเขาเท่านั้น
และแท้จริง
จำนวนมากมายในหมู่มนุษย์นั้นเป็นผู้ละเมิด
[5:50]
ข้อตัดสินสมัยญาฮิลีญะฮ์
กระนั้นหรือ
ที่พวกเขาปรารถนา
และใครเล่าที่จะมีข้อตัดสินดียิ่งกว่าอัลลอฮ์สำหรับกลุ่มชนที่เชื่อมั่น