[5:58]
และเมื่อพวกเจ้าได้เรียกร้องไปสู่การละหมาด
พวกเขาก็ถือเอาการละหมาดเป็นการเย้ยหยันเป็นการล้อเล่นนั่นก็เพราะพวกเขาเป็นพวกที่ไม่ใช้ปัญญา
[5:59]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า
โอ้บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย
!
พวกท่านมิได้ตำหนิติเตียนและปฏิเสธพวกเรา
(เพราะอื่นใด)
นอกจากว่าพวกเราศรัทธาต่ออัลลอฮ์
และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เรา
และสิ่งที่ถูกประทานลงมาก่อนแล้วเท่านั้น
และแท้จริงส่วนมากของพวกท่านนั้นเป็นผู้ละเมิด
[5:60]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่าจะให้ฉันบอกแก่พวกท่านไหม
ถึงการตอบแทนที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น
ณ ที่อัลลอฮ์
คือผู้ที่อัลลอฮ์ได้ทรงละอ์นัต
เขาและกริ้วโกรธเขา
และให้ส่วนหนึ่งในพวกเขาเป็นลิง
และเป็นสุกร
และเป็นผู้สักการะชัยตอน
ชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่มีตำแหน่งอันชั่วร้ายและเป็นผู้ที่หลงไปจากทางอันเที่ยงตรง
[5:61]
และเมื่อเขาเหล่านั้น
มาหาพวกเจ้า
พวกเขาก็กล่าวว่า
เราศรัทธาแล้ว
ทั้ง ๆ
ที่โดยแท้จริงนั้น
พวกเขาเข้ามาในสภาพผู้ปฏิเสธศรัทธา
และขณะที่พวกเขาออกไปก็ในสภาพนั้น
และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเขาปกปิด
[5:62]
และเจ้าจะได้เห็นมากมายในหมู่พวกเขาต่างรีบเร่งกันในการทำบาป
และการเป็นศัตรูกันและการที่พวกเขากินสิ่งที่เป็นที่ต้องห้าม
ช่างเลวจริง
ๆ สิ่งที่พวกเขากระทำกัน
[5:63]
ไฉนเล่าผู้ที่รู้แจ้งในอัลลอฮ์และนักปราชญ์เหล่านั้นจึงไม่ห้ามพวกเขา
ในการที่พวกเขาพูดสิ่งที่เป็ฯบาป
และในการที่พวกเขากินสิ่งที่ต้องห้ามช่างเลวจริง
ๆ สิ่งที่พวกเขาทำ
[5:64]
และชาวยิวนั้นได้กล่าวว่า
พระหัตถ์ของอัลลอฮ์นั้นถูกล่ามตรวน
มือของพวกเขาต่างหากที่ถูกล่ามตรวนและพวกเขาได้รับละอ์นัต
เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาพูดมิได้
พระหัตถ์ทั้งสองของพระองค์ถูกแบออกต่างหาก
ซึ่งพระองค์จะทรงแจกจ่ายอย่างไรก็ได้ที่พระองค์ทรงประสงค์
และแน่นอนสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้าจากพระเจ้าของเจ้านั้นจะเพิ่มการละเมิด
และการปฏิเสธศรัทธาแก่จำนวนมากมายในหมู่พวกเขา
และเราได้ก่อให้เกิดการเป็นศัตรูกันและการเกลียดชังกันในระหว่างพวกเขา
จนถึงวันกิยามะฮ์
ทุกครั้งที่พวกเขาจุดไฟขึ้น
เพื่อทำสงคราม
อัลลอฮ์ก็ทรงดับไฟนั้นเสีย
และพวกเขาเพียรพยายามบ่อนทำลายในผืนแผ่นดิน
และอัลลอฮ์นั้นไม่ทรงชอบผู้บ่อนทำลายทั้งหลาย