[6:19]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า
สิ่งใดใหญ่ยิ่งกว่าในการเป็นพยาน
จงกล่าวเถิดว่าอัลลอฮ์นั้นคือผู้เป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน
และอัลกุรอานนี้ก็ได้ถูกประทานลงมาแก่ฉัน
เพื่อที่ฉันจะได้ใช้อัลกุรอานนี้
ตักเตือนพวกท่าน
และผู้ที่อัลกุรอานนี้ไปถึง
พวกท่านจะยืนยันโดยแน่นอนกระนั้นหรือว่า
มีบรรดาที่เคารพสักการะอื่นร่วมกับอัลลอฮ์? จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า
ฉันจะไม่ยืนยัน
จงกล่าวเถิด
แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ที่ควรแก่การเคารพสักการะแต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น
และแท้จริงฉันขอปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกท่านให้มีภาคี
(แก่อัลลอฮ์)
[6:20]
บรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขานั้น
พวกเขารู้จักเขา
เช่นเดียวกับที่พวกเขารู้จักลูกๆ
ของพวกเขาเอง
บรรดาผู้ที่ทำให้ตัวของพวกเขาขาดทุนนั้น
พวกเขาจะไม่ศรัทธา
[6:21]
และผู้ใดเล่า
คือผู้อธรรมยิ่งกว่าผู้ที่อุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์
หรือปฏิเสธบรรดาโองการของพระองค์? แท้จริงบรรดาผู้อธรรมนั้นจะไม่ได้รับความสำเร็จ
[6:22]
และวันที่เราจะชุมนุมพวกเขาทั้งมวล
แล้วเราจะกล่าวแก่บรรดาผู้ที่ให้มีภาคีขึ้นว่าไหนเล่า
บรรดาภาคีของพวกเจ้าที่พวกเจ้าอ้างกัน
[6:23]
แล้ว
(ผลแห่ง)
การทดสอบพวกเขาก็มิได้เป็นอย่างอื่น
นอกจากพวกเขากล่าวว่า
พวกข้าพระองค์ขอสาบานต่ออัลลอฮ์
ผู้เป็นพระเจ้าของพวกข้าพระองค์ว่า
พวกข้าพระองค์ไม่เคยเป็นผู้ให้มีภาคีขึ้น
[6:24]
จงดูเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า
พวกเขาได้โกหกแก่ตัวพวกเขาเองอย่างไร? และสิ่งที่พวกเขาเคยอุปโลกน์ขึ้นก็ได้หายไปจากพวกเขา
[6:25]
และในหมู่พวกเขานั้นมีผู้ที่สดับฟังเจ้าอยู่บ้าง
แต่เราได้ให้มีสิ่งปิดกั้นอยู่บนหัวใจของพวกเขา
ในการที่พวกเขาจะเข้าใจอัลกุร-อาน
และได้ให้ในหูของพวกเขามีความหนวกอยู่ด้วย
และหากพวกเขาเห็นสัญญาณทุกอย่าง
พวกเขาก็จะไม่ศรัทธาจนกระทั่งพวกเขาได้มาหาเจ้า
ก็ยังโต้เถียงกับเจ้า
บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้นจะกล่าวว่า
นี่มิใช่อะไรอื่น
นอกจากบรรดาสิ่งขีดเขียนอันไร้สาระของคนก่อนๆ
เท่านั้น
(นิยายโบราณ)
[6:26]
และพวกเขาห้ามเกี่ยวข้องกับอัลกุรอาน
และพวกเขาก็ปลีกตัวออกห่างจากอัลกุรอานด้วย
และพวกเขาจะไม่ทำให้ใครพินาศ
นอกจากตัวของพวกเขาเองเท่านั้น
แต่พวกเขาไม่รู้สึก
[6:27]
และหากเจ้าจะได้เห็น
ขณะที่พวกเขาถูกให้หยุดยืนเบื้องหน้าไฟนรก
แล้วพวกเขาได้กล่าวว่า
โอ้!
หวังว่าเราจะถูกนำกลับไป
และเราก็จะไม่ปฏิเสธบรรดาโองการแห่งพระเจ้าของเราอีก
และเราก็จะได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่ผู้ศรัทธา