[6:28]
แต่ทว่าได้ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว
สิ่งที่พวกเขาปกปิดไว้แต่กาลก่อน
และแม้ว่าพวกเขาถูกให้กลับไป
แน่นอนพวกเขาก็กลับกระทำอีกในสิ่งที่พวกเขาถูกห้ามไว้
และแท้จริงพวกเขาคือผู้ที่กล่าวเท็จ
[6:29]
และพวกเขากล่าวว่า
มันมิใช่อะไรอื่นนอกจากชีวิตความเป็นอยู่ของเราในโลกนี้เท่านั้น
และเรานั้นใช่ว่าจะเป็นผู้ถูกให้ฟื้นคืนชีพก็หาไม่
[6:30]
และหากว่าเจ้าจะได้เห็น
ขณะที่พวกเขาถูกให้ยืนอยู่เบื้องหน้าพระเจ้าของพวกเขา
โดยที่พระองค์ได้ทรงกล่าวว่า
นี่มิใช่ความจริงดอกหรือ?พวกเขาตอบว่า
ใช่ขอรับ
พวกข้าพระองค์ขอสาบานด้วยพระเจ้าของพวกข้าพระองค์
พระองค์ตรัสว่า
พวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษกันเถิด
เนื่องจากการที่พวกเจ้าปฏิเสธศรัทธา
[6:31]
แน่นอนได้ขาดทุนไปแล้วบรรดาผู้ที่ปฏิเสธต่อการพบอัลลอฮ์
จนกระทั่งเมื่อวันกิยามะฮ์ได้มายังพวกเขาโดยกระทันหัน
แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า
โอ้ความเสียใจของเรา
ในสิ่งที่เราได้ทำให้บกพร่องในโลก
โดยที่พวกเขาแบกบรรดาบาปของพวกเขาไว้บนหลังของพวกเขาด้วย
พึงรู้เถิดว่า
ช่างเลวร้ายจริงๆ
สิ่งที่พวกเขากำลังแบกอยู่
[6:32]
และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้นั้นมิใช่อะไรอื่น
นอกจากการเล่น
และการเพลิดเพลินเท่านั้นและแน่นอนสำหรับบ้านแห่งอาคีเราะห์นั้นดียิ่งกว่า
สำหรับบรรดาผู้ที่ยำเกรง
พวกเจ้าไม่ได้ใช้ปัญญาดอกหรือ?
[6:33]
เรารู้ดีว่า
สิ่งที่พวกเขากล่าวกันนั้นทำให้เจ้าเสียใจ
แท้จริงพวกเขาหาได้ปฏิเสธเจ้าไม่
แต่ทว่าบรรดาผู้อธรรมนั้นปฏิเสธโองการต่างๆของอัลลอฮ์ต่างหาก
[6:34]
และแน่นอนบรรดาร่อซู้ลก่อนเจ้านั้นได้ถูกปฏิเสธมาแล้ว
แล้วพวกเขาอดทนต่อสิ่งที่พวกเขาถูกปฏิเสธ
และถูกทำร้ายจนกระทั่ง
ความช่วยเหลือของเราได้มายังพวกเขา
และไม่มีใครเปลี่ยนแปลงพจนารถของอัลลฮ์ได้
และแท้จริงนั้นได้มายังเจ้าแล้ว
จากข่าวคราวของบรรดาผู้ที่ถูกส่งมา
[6:35]
และหากว่าการผินหลังให้ของพวกเขานั้นมันใหญ่โตแก่เจ้าแล้ว
หากเจ้าสามารถที่จะแสวงหาช่องใดๆลงในแผ่นดิน
หรือบันไดสู่ฟากฟ้า
แล้วทำสัญญาณหนึ่งมายังพวกเขา
และหากว่าอัลลอฮ์
ทรงประสงค์แล้ว
แน่นอนพระองค์ก็ทรงรวบรวมพวกเขาให้อยู่บนคำแนะนำแล้ว
ดังนั้นเจ้าจงอย่าเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้งมงายเลย