[6:45]
แล้วได้ถูกตัดขาด
จนคนสุดท้ายของกลุ่มชนที่อธรรม
และการสรรเสริญทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์
ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก
[6:46]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ? หากอัลลอฮ์ทรงเอาหูของพวกท่าน
และตาของพวกท่านไป
และได้ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกท่านด้วยแล้ว
ใครเล่าคือผู้ซึ่งได้รับการเคารพสักการะอื่นจากอัลลอฮ์ที่จะนำมันมาให้แก่พวกท่านได้
จงดูเถิดว่าอย่างไรเล่าที่เราแจกแจงโองการทั้งหลาย
แล้วพวกเขาก็ยังหันเหไปได้
[6:47]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
พวกท่านเห็นแล้วมิใช่ดอกหรือว่า
หากการลงโทษของอัลลอฮ์มายังพวกท่านโดยกระทันหันก็ดี
หรือโดยเปิดเผยก็ดีนั้น
จะไม่มีใครถูกทำลาย
นอกจากกลุ่มชนผู้อธรรมเท่านั้น
[6:48]
และเราจะไม่ส่งบรรดาร่อซู้ลมา
นอกจากในฐานะผู้แจ้งข่าวดี
และผู้ตักเตือนเท่านั้น
ดังนั้นผู้ใดที่ศรัทธาและปรับปรุงแก้ไขแล้ว
ก็ไม่มีความกลัวใดๆ
แก่พวกเขา
และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ
[6:49]
และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธบรรดาโองการของเรานั้น
การลงโทษจะประสบแก่พวกเขา
เนื่องจากการที่พวกเขาละเมิด
[6:50]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า ฉันจะไม่กล่าวแก่พวกท่านว่า
ที่ฉันมีบรรดาคลังสมบัติของอัลลอฮ์
และทั้งฉันก็ไม่รู้สิ่งเร้นลับ
และฉันก็จะไม่กล่าวแก่พวกท่านว่า
ฉันคือมะลัก
ฉันจะไม่ปฏิบัติตาม
นอกจากสิ่งที่ถูกให้เป็นโองการแก่ฉันเท่านั้น
จงกล่าวเถิด
คนตาบอดกับคนตาดีนั้นจะเท่าเทียมกันหรือ? พวกท่านไม่ใคร่ครวญดอกหรือ?
[6:51]
และเจ้าจงตักเตือนด้วย
อัลกุรอานแก่บรรดาผู้เกรงกลัวว่าพวกเขาจะถูกนำไปชุมนุมยังพระเจ้าของพวกเขา
โดยที่อื่นจากพระองค์แล้วไม่มีผู้ช่วยเหลือคนใด
และไม่มีผู้ทำการชะฟาอะฮ์คนใด
สำหรับพวกเขา
เพื่อว่าพวกเขาจะได้ยำเกรง
[6:52]
เจ้าจงอย่าขับไล่บรรดาผู้ที่วิงวอนต่อพระเจ้าของพวกเขา
ทั้งในเวลาเช้าและเย็น
โดยปรารถนาความโปรดปรานจากพระองค์
ไม่เป็นภัยแก่เจ้าแต่อย่างใด
ในการชำระพวกเขา
และก็ไม่เป็นภัยแก่พวกเขาแต่อย่างใด
จากการชำระเจ้า
แล้วเหตุใดเจ้าจึงจะขับไล่พวกเขา? (ถ้าเจ้าทำเช่นนั้นแล้ว)
เจ้าก็จะกลายเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้อธรรม