[6:158]
พวกเขามิได้รอคอยอะไร
นอกจากการที่มลาอิกะฮ์จะมายังพวกเขา
หรือการที่พระเจ้าของเจ้าจะมา
หรือการที่สัญญาณบางอย่างแห่งพระเจ้าของเจ้าจะมา
วันที่สัญญาณบางอย่างแห่งพระเจ้าของเจ้ามานั้น
จะไม่อำนวยประโยชน์แก่ชีวิตหนึ่งชีวิตใด
ซึ่งการศรัทธาของเขาโดยที่เขามิได้ศรัทธามาก่อน
หรือมิได้แสวงหาความดีใด
ๆ
ไว้ในการศรัทธาของเขา
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า พวกท่านจงรอกันเถิด
แท้จริงพวกเราก็เป็นผู้รอคอย
[6:159]
แท้จริงบรรดาผู้ที่แบ่งแยกศาสนาของพวกเขา
และพวกเขาได้กลายเป็นนิกายต่าง
ๆ นั้นเจ้า
(มุฮัมมัด)
หาใช่อยู่ในพวกเขาแต่อย่างใดไม่แท้จริงเรื่องราวของพวกเขานั้น
ย่อมไปสู่อัลลอฮ์แล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกเขาในสิ่งที่พวกเขากระทำกัน
[6:160]
ผู้ใดที่นำความดีมา
เขาก็จะได้รับสิบเท่าของความดีนั้น
และผู้ใดนำความชั่วมาเขาจะไม่ถูกตอบแทน
นอกจากเท่าความชั่วนั้นเท่านั้น
และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรม
[6:161]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า
แท้จริงฉันนั้น
พระเจ้าของฉันได้แนะนำฉันไปสู่ทางอันเที่ยงตรง
คือศาสนที่เที่ยงแท้อันเป็นแนวทางของอิบรอฮีมผู้ใฝ่หาความจริง
และเขา
(อิบรอฮีม)
ไม่เป็นผู้อยู่ในหมู่ผู้ให้มีภาคีขึ้น
[6:162]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า
แท้จริงการละหมาดของฉัน
และการอิบาดะฮ์
ของฉัน
และการมีชีวิตของฉัน
และการตายของฉันนั้นเพื่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น
[6:163]
ไม่มีภาคีใด
ๆ แก่พระองค์
และด้วยสิ่งนั้นแหละข้าพระองค์ถูกใช้
และข้าพระองค์คือคนแรกในหมู่ผู้สวามิภักดิ์ทั้งหลาย
[6:164]
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า
อื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ
ที่ฉันจะแสวงหาพระเจ้า? ทั้ง
ๆ
ที่พระองค์นั้นเป็นพระเจ้าของทุกสิ่ง
และแต่ละชีวิตนั้นจะไม่แสวงหาสิ่งใด
นอกจากจะเป็นภาระแก่ชีวิตนั้นเองเท่านั้น
และไม่มีผู้แบกภาระคนใดจะแบกภาระของผู้อื่นได้แล้วยังพระเจ้าของพวกเจ้านั้น
คือการกลับไปของพวกเจ้า
แล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกัน
[6:165]
และพระองค์นั้นคือผู้ที่ทรงให้พวกเจ้าเป็นผู้สืบแทนในแผ่นดิน
และได้ทรงเทิดบางคนของพวกเจ้าเหนือกว่าอีกบางคนหลายขั้น
เพื่อที่พระองค์จะทรงทดสอบพวกเจ้าในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงประทานแก่พวกเจ้า
แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น
เป็นผู้รวดเร็วในการลงโทษและแท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงเอ็นดูเมตตา