[7:38]
พระองค์ตรัสว่า
พวกเจ้าจงเข้าไปในหมู่ประชาชาติที่ได้ล่วงลับมาก่อนพวกเจ้าทั้งที่เป็นญิน
(บังเกิดมาจากไฟ)
และมนุษย์
ซึ่งอยู่ในไฟนรกนั้นเถิด
ทุกครั้งที่มีกลุ่มชนหนึ่งเข้าไป
พวกเขาก็สาปแช่งพี่น้องของพวกเขา
จนกระทั่งเมื่อพวกเขาได้ไปทันกันในไฟนรกนั้นทั้งหมด
แล้ว
กลุ่มหลังสุดของพวก
เขาก็กล่าวแก่กลุ่มแรกของพวกเขาว่า
โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์
ชนเหล่านี้แหละได้ทำให้พวกข้าพระองค์หลงผิด
ดังนั้นโปรดได้ทรงนำมาแก่พวกเขา
ซึ่งการลงโทษสองเท่าจากไฟนรกด้วยเถิด
พระองค์ตรัสว่า
แต่ละกลุ่มนั้นจะได้รับสองเท่า
แต่ทว่าพวกเจ้าไม่รู้
[7:39]
และกลุ่มแรกของพวกเขา
ได้กล่าวแก่กลุ่มหลังว่า
พวกท่านไม่มีความที่เด่นใด
ๆ เหนือพวกเรา
ดังนั้นพวกท่านจงชิมการลงโทษ
เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเจ้าแสวงหากันไว้เถิด
[7:40]
แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธโองการต่าง
ๆของเรา
และได้แสดงโอหังต่อโองการเหล่านั้น
บรรดาประตูแห่งฟากฟ้าจะไม่ถูกเปิดให้แก่พวกเขา
และพวกเขาจะไม่ได้เข้าสวรรค์
จนกว่าอูฐจะลอดเข้าไปในรูเข็มได้
และในทำนองนั้นแหละ
เราจะตอบแทนลงโทษแก่ผู้กระทำความผิด
[7:41]
สำหรับพวกเขานั้น
คือ
ที่นอนจากนรกญะฮันนัม
และจากเบื้องบนของพวกเขานั้น
มีสิ่งคลุมครอบอยู่
และในทำนองนั้นแหละเราจะตอบแทนลงโทษแก่บรรดาผู้อธรรม
[7:42]
และบรรดาผู้ที่ศรัทธาและประกอบสิ่งที่ดีทั้งหลายนั้นเราไม่บังคับชีวิตใด
นอกจากที่ชีวิตนั้นมีความสามารถเท่านั้นชนเกล่านี้แหละคือชาวสวรรค์
โดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในสวรรค์นั้นชั่วนิรันดร์
[7:43]
และเราได้ถอนออกซึ่งการผูกใจเจ็บที่อยู่ในหัวอกของพวกเขา
(คือชาวสวรรค์)
โดยมีบรรดาแม่น้ำไหลอยู่ภายใต้ของพวกเขาและพวกเขาได้กล่าวว่า
การสรรเสริญทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ผู้ทรงแนะนำพวกเราให้ได้รับสิ่งนี้
และใช่ว่าพวกเราจะได้รับคำแนะนำก็หาไม่
หากว่าอัลลอฮ์ไม่ทรงแนะนำแก่พวกเรา
แน่นอนบรรดาร่อซู้ลแห่งพระเจ้าของเรานั้นได้นำความจริงมาและพวกเราได้ถูกป่าวร้องว่า
นั้นแหละคือสวนสวรรค์โดยที่พวกท่านได้รับมันไว้เป็นมรดก
เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเจ้าเคยกระทำกันไว้