[7:188]
จงกล่าวเถิดว่า
(มุฮัมมัด)
ว่าฉันไม่มีอำนาจที่จะครอบครองประโยชน์ใด
ๆ และโทษใด ๆ
ไว้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ตัวของฉันได้
นอกจากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์เท่านั้น
และหากฉันเป็นผู้ที่รู้สิ่งเร้นลับแล้ว
แน่นอนฉันก็ย่อมกอบโกยสิ่งที่ดีไว้มากมายแล้ว
และความชั่วร้ายก็ย่อมไม่ต้องฉันได้
ฉันมิใช้ใครอื่น
นอกจากผู้ตักเตือนและผู้ประกาศข่าวดีแก่กลุ่มชนที่ศรัทธาเท่านั้น
[7:189]
พระองค์นั้นคือผู้ที่ได้ทรงบังเกิดพวกเจ้าจากชีวิตเดียวและได้ทรงให้มีขึ้นจากชีวิตนั้น
ซึ่งคู่ครองของชีวิตนั้นเพื่อชีวิตนั้นจะได้มีความสงบสุขกับนาง
ครั้นเมื่อชีวิตนั้นได้สมสู่นาง
นางก็อุ้มครรภ์อย่างเบา
ๆ
แล้วนางก็ผ่านมันไป
ครั้นเมื่อนางอุ้มครรภ์หนัก
เขาทั้งสองก็วิงวอนต่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าของเขาทั้งสองว่า
ถ้าหากพระองค์ทรงประทานบุตรที่สมบูรณ์ให้ข้าพระองค์แล้ว
แน่นอนข้าพระองค์ก็อยู่ในหมู่ผู้ขอบคุณ
[7:190]
ครั้นเมื่อพระองค์ได้ทรงประทานให้เขาทั้งสองซึ่งบุตรที่สมบูรณ์
เขาทั้งสอง
ก็ให้มีบรรดาภาคีขึ้นแก่พระองค์
ในสิ่งที่พระองค์ทรงประทานให้แก่เขาทั้งสอง
อัลลอฮ์นั้นทรงสูงเกินกว่าที่พวกเขาให้มีภาคีขึ้น
[7:191]
พวกเขา
จะให้สิ่งที่บังเกิดอันใดมีหุ้นส่วน
(กับพระองค์)
ทั้ง ๆ
ที่พวกมันถูกบังเกิดขึ้น
กระนั้นหรือ ?
[7:192]
และพวกมัน
ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือใด
ๆ แก่พวกเขา
และทั้งไม่สามารถช่วยเหลือตัวของพวกมันเองด้วย
[7:193]
และหากพวกเจ้าเชิญชวนพวกเขาไปสู่คำแนะนำที่ถูกต้อง
พวกเขาก็จะไม่ปฏิบัติตามพวกเจ้า
ย่อมมีผลเท่ากันแก่พวกเจ้า
พวกเจ้าจะเชิญชวนพวกเขา
หรือพวกเจ้าจะนิ่งเฉยอยู่ก็ตาม
[7:194]
แท้จริงบรรดาผู้ที่พวกเจ้าวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์นั้นคือ
ผู้ที่เป็นบ่าวเยี่ยงพวกเจ้านั้นเอง
จงวิงวอนขอต่อพวกเขาเถิด
แล้วจงให้พวกเขาตอบรับพวกเจ้าด้วย
หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง
[7:195]
พวกมันมีเท้าที่ใช้มันเดินกระนั้นหรือ
? หรือว่าพวกมันมีมีที่ใช้มันจัดการอย่างรุนแรง
หรือว่าพวกมันมีตาที่ใช้มอง
หรือว่าพวกมันมีหูที่ใช้มันฟัง
จงกล่าวเถิด
(มุฮัมมัด)
ว่า
พวกท่านจงวิงวอนขอต่อบรรดาภาคีของพวกเจ้าเถิดแล้วจงวางอุบายแก่ฉันด้วย
จงอย่าได้ประวิงเวลาให้แก่ฉันเลย