[2:120]
และชาวยิวและชาวคริสต์นั้น
จะไม่ยินดีแก่เจ้า
(มุฮัมมัด)
เป็นอันขาด
จนกว่าเจ้าจะปฏิบัติตามศาสนาของพวกเขา
จงกล่าวเถิด
แท้จริง
คำแนะนำของอัลลอฮ์
เท่านั้น คือ
คำแนะนำ
แน่นอนถ้าเจ้าปฏิบัติตามความใคร่ของพวกเขา
หลังจากที่มีความรู้มายังเจ้า
แล้ว
ก็ย่ามไม่มีผุ้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือใดๆ
สำหรับเจ้าให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ได้
[2:121]
บรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขาโดยที่พวกเขาอ่านคัมภีร์อย่างจริงๆ
ชนเหล่านี้แหละคือ
ผู้ที่ศรัทธาต่อคคัมภีร์นั้นไซร้
แน่นอนชนเหล่านี้คือผู้ที่ขาดทุน
[2:122]
วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย!
จงรำลึกถึงความกรุณาของข้า
ที่ข้าได้กรุณาต่อพวกเจ้า
และแท้จริง
ข้าได้เทิดพวกเจ้าเหนือประชาชาติ
ทั้งหลาย
[2:123]
และจงเกรงกลัววันหนึ่งซึ่งในวันนั้นไม่มีใครสามารถที่จะช่วยใครได้แต่อย่างใด
และการไถ่โทษแทนจากใครก็จะไม่เป็นที่ยอมรับ
การขอไถ่แทนก็จะไม่เป็นประโยชน์แก่ใคร
และผู้ที่ทำผิดทั้งหลายจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ
[2:124]
จงนึกถึงเมื่อตอนที่พระผู้อภิบาลของเขาได้ทรงทดสอบอิบรอฮีมในบางสิ่ง
แล้วเขาได้ปฏิบัติโดยครบถ้วน
พระองค์ทรงตรัสว่า
ฉันจะทำให้เจ้าเป็นผู้นำของมนุษยชาติ
เขาได้ถามว่า
สัญญานี้รวมถึงลูกหลานของฉันด้วยหรือ
พระองค์ตรัสว่า
สัญญาของฉันไม่แผ่ถึงพวกอธรรม
[2:125]
และจงรำลึกถึงขณะที่เรา
ได้ให้บ้านหลังนั้นเป็นที่กลับมาสำหรับมนุษย์
และเป็นที่ปลอดภัยและพวกเจ้าจงยึดเอาที่ยืนของอิบรอฮีม
เป็นที่ละหมาดเภิด
และเราได้สั่งเสียแก่อิบรอฮีม
และ
อิสมาอีลว่า
เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้า
เพื่อบรรดาผู้ทำการเฏาะวาป
และบรรดาผู้ทำการ
เอียติกาฟ
และบรรดาผู้ที่ทำรุกัวะและสุยูด
[2:126]
และจงรำลึกถึงยณะที่อิบรอฮีมได้วิงวอนว่า
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์
โปรดทรงให้ที่นี้เป็นเมืองที่ปลอดภัย
และโปรดประทานบรรดาผลไม้ให้เป็นปัจจัยยังชีพ
แก่ชาวเมืองนั้นด้วย
คือ
ผุ้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์
และวันปรโลกจากพวกเขา
พระองค์ตรัสว่า
ผู้ใดที่ปฏิเสธการศรัทธา
ข้าจะให้เขาได้รับความสำราญชั่วเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ภายหลังข้าจะบีบบังคับให้เขาไปสู่การทรมานแห่งขุมนรก
และเป็นจุดหมายปลายทางอันชั่วช้ายิ่ง