[11:46]
พระองค์ทรงตรัสว่า
โอ้นูห์เอ๋ย !
แท้จริงเขามิได้เป็นคนหนึ่งในครอบครัวของเจ้าแท้จริงการกระทำของเขาไม่ดี
ดังนั้นเจ้าอย่าร้องเรียนต่อข้าในสิ่งที่เจ้าไม่มีความรู้
แท้จริงข้าขอเตือนเจ้าที่เจ้าจะอยู่ในหมู่ผู้งมงาย
[11:47]
เขากล่าวว่า
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์
แท้จริงข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระองค์ท่าน
ให้พ้นจากการร้องเรียนต่อพระองค์ท่านในสิ่งที่ข้าพระองค์ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น
และหากพระองค์ไม่ทรงอภัยแก่ข้าพระองค์
และไม่ทรงเมตตาข้าพระองค์แล้ว
ข้าพระองค์ก็จะอยู่ในหมู่ผู้ขาดทุน
[11:48]
ได้มีเสียงกล่าวว่า
โอ้นูห์เอ๋ย !
จงลงไป (จากเรื่อ)
ด้วยความศานติจากเรา
และความจำเริญแก่เจ้า
และแก่กลุ่มชนที่อยู่กับเจ้าและกลุ่มชนอื่นที่เราจะให้พวกเขาหลงระเริง
แล้วการลงโทษอย่างเจ็บปวดจากเราก็จะประสบแก่พวกเขา
[11:49]
เหล่านั้นคือส่วนหนึ่งจากเรื่องราวอันเร้นลับที่เราได้วะอีมายังเจ้า
(มุฮัมมัด)
เจ้าไม่รู้เรื่องนี้และกลุ่มชนของเจ้าก็ไม่รู้มาก่อนเลย
ดังนั้นเจ้าจงอดทนแท้จริงบั้นปลายที่ดีนั้นสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง
[11:50]
และยังอ๊าด
(เราได้ส่ง)
พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือฮูดเขากล่าวว่า
โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย!
พวกท่านจงเคารพอิบาดะฮ์อัลลอฮ์เถิดพวกท่านไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์
พวกท่านมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นพวกอุปโลกน์เท่านั้น
[11:51]
โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย!
ฉันมิได้ขอร้องต่อพวกท่านซึ่งรางวัลในการนี้เลยรางวัลของฉันนั้นอยู่กับพระผู้ให้บังเกิดฉัน
พวกท่านไม่ใช้ปัญญาหรือ?
[11:52]
และโอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย
!
จงขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกท่าน
แล้วจงกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์
พระองค์จะส่งเมฆ
(น้ำฝน) มาเหนือพวกท่าน
ให้หลั่งน้ำฝนลงมาอย่างหนักและจะทรงเพิ่มพลังเป็นทวีคุณให้แก่พวกท่าน
และพวกท่าน
และพวกท่านอย่าผินหลังโดยเป็นผู้กระทำผิด
[11:53]
พวกเขากล่าวว่า
โอ้ฮูดเอ๋ย!
ท่านมิได้นำหลักฐานอันชัดแจ้งมาให้แก่เราและพวกเราก็จะไม่ละทิ้งพระเจ้าทั้งหลายของเราเพราะคำกล่าวของท่าน
และพวกเราก็จะไม่ศรัทธาในตัวท่าน