[13:29]
บรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดี
ความผาสุกย่อมได้แก่พวกเขา
และเป็นการกลับไปที่ดียิ่ง
[13:30]
ในทำนองนี้เราได้ส่งเจ้ามายังกลุ่มชนหนึ่ง
ซึ่งก่อนหน้านั้นมีกลุ่มชนอื่นได้ล่วงลับไปแล้ว
เพื่อเจ้าจะได้บอกกล่าวแก่พวกเขาถึงสิ่งที่เราได้วะฮีย์แก่เจ้า
โดยที่พวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานี
จงกล่าวเถิด
พระองค์คือพระเจ้าของฉัน
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์เฉพาะพระองค์เท่านั้นฉันมอบความไว้วางใจ
และยังพระองค์คือการกลับไปของฉัน
[13:31]
และมาตรว่าอัลกุรอาน
โดยมันนั้นภูเขาถูกทำให้เคลื่อนที่ได้
หรือโดยมันนั้นแผ่นดินถูกทำให้แยกออกจากกันได้
หรือโดยมันนั้นคนตายถูกทำให้พูดได้แต่ทว่าพระบัญชาทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์
บรรดาผู้ศรัทธายังมิรู้ดอกหรือว่า
มาตรว่าอัลลอฮ์ทรงประสงค์
แน่นอนพระองค์จะทรงชี้แนะทางแก่มนุษย์ทั้งมวลก็ได้
และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น
ความหายนะคงจะประสบแก่พวกเขา
เนื่องด้วยพวกเขาได้กระทำไว้
หรือจะเกิดขึ้นใกล้ที่พำนักของพวกเขา
จนกระทั่งสัญญาณของอัลลอฮ์จะมาถึง
แท้จริงอัลลอฮ์มิทรงผิดสัญญา
[13:32]
และโดยแน่นอน
บรรดาร่อซู้ลก่อนหน้าเจ้าได้ถูกเย้ยหยันมาแล้วข้าได้ประวิงเวลาแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้วข้าได้คร่าพวกเขา
ดังนั้นการลงโทษของข้าเป็นเช่นใด?
[13:33]
ดังนั้น
พระองค์ผู้ทรงเฝ้ามองทุกชีวิตที่มันได้ขวนขวายเอาไว้
(จะเหมือนกับเจว็ดทั้งหลาย)
กระนั้นหรือ? และพวกเขาได้ตั้งภาคีเทียมอัลลอฮ์
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
พวกท่านจงกล่าวชื่อพวกมัน
หรือพวกท่านจะบอกพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ไม่รู้ในแผ่นดิน
หรือเป็นเพียงคำพูดที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ
กระนั้นหรือ? เปล่าเลย!
ได้ถูกทำให้เพริศแพร้วแก่บรรดาผู้ปฏิเสธ
ซึ่งแผนการณ์ของพวกเขา
และถูกปิดกั้นจากแนวทาง
(ของอัลลอฮ์)
และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์ให้เขาหลงทางสำหรับเขาจะไม่มีผู้ชี้แนะให้เลย
[13:34]
สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษในชีวิตของโลกนี้
และแน่นอนการลงโทษในปรโลกนั้นร้ายแรงกว่า
และสำหรับพวกเขาไม่มีผู้คุ้มกันจาก
(การลงโทษของ)
อัลลอฮ์ได้