[13:43]
และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวว่า
ท่านมิใช่เป็นผู้ได้รับแต่ตั้ง
จงกล่าวเถิด
เพียงพอแล้วที่อัลลอฮ์ทรงเป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่านและผู้ที่เขามีความรู้ในคัมภีร์
(ก็เป็นพยานด้วย)
Ibrâhîm
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์
ผู้ทรงเมตตา
ผู้ทรงปรานี
[14:1]
อะลิฟ
ลาม
รอคัมภีร์ที่เราได้ประทานลงมาแก่เจ้า
เพื่อให้เจ้านำมนุษย์ออกจากความมืดมนทั้งหลาย
สู่ความสว่าง
ด้วยอนุมัติของพระเจ้าของพวกเขา
สู่ทางของพระผู้เดชานุภาพ
ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ
[14:2]
(คือ)
ทางของอัลลอฮ์
ซึ่งสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน
เป็นของพระองค์และความหายนะจากการลงโทษอย่างสาหัส
จงประสบแก่พวกปฏิเสธศรัทธา
[14:3]
บรรดาผู้พอใจเลือกเอาชีวิตในโลกนี้เหนือปรโลก
และปิดกั้นจากทางของอัลลอฮ์
และต้องการที่จะให้มันคดเคี้ยว
ชนเหล่านั้นอยู่ในการหลงทางที่ห่างไกล
[14:4]
และเรามิได้ส่งร่อซู้ลคนใด
นอกจากด้วยการพูดภาษาชนชาติของเขา
เพื่อจะได้ชี้แจงอย่างชัดแจ้งแก่พวกเขา
อัลลอฮ์จะทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์หลงทาง
และทรงชี้แนะทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์
และพระองค์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ
ผู้ทรงปรีชาญาณ
[14:5]
และโดยแน่นอน
เราได้ส่งมูซาพร้อมด้วยสัญญาณต่าง
ๆ ของเราว่า
จงนำกลุ่มชนของเจ้าออกจากความมืดมนทั้งหลายสู่ความสว่างและจงเตือนพวกเขาให้รำลึกถึงวัน
(แห่งความโปรดปราน)
ของอัลลอฮ์
แท้จริงในการนั้นย่อมเป็นสัญญาณแก่ผู้อดทนผู้ขอบคุณทุกคน