[18:98]
เขากล่าวว่า
นี่คือความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้าของฉัน
ดังนั้น เมื่อสัญญาของพระผุ้เป็นเจ้าของฉันมาถึงพระองค์จะทรงทำให้มันพังทลาย
และสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าของฉันนั้นเป็นจริงเสมอ
[18:99]
และวันนั้นเราได้ปล่อยให้บางส่วนของพวกเขาปะทะกับอีกบางส่วน
และสังข์จะถูกเป่าขึ้น
แล้วเราจะรวมพวกเขาทั้งหมด
[18:100]
และวันนั้นเราจะนำนรกญะฮันนัม
มาเปิดเผยแก่พวกปฏิเสธศรัทธา
[18:101]
คือบรรดาผู้ที่ดวงตาของพวกเขาถูกปกปิดจากการรำลึกถึงข้า
และพวกเขาไม่สามารถจะได้ยิน
[18:102]
บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้คิดแล้วหรือว่าพวกเขาจะยึดเอาปวงบ่าวของข้าอื่นจากข้าเป็นผู้คุ้มครองได้แท้จริงเราได้เตรียมนรกณะฮันนัมไว้เป็นที่พำนัก
สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว
[18:103]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
เราจะแจ้งแก่พวกท่านไหม
ถึงบรรดาผู้ที่ขาดทุนยิ่งในการงาน?
[18:104]
คือบรรดาผู้ที่การขวนขวายของพวกเขาสูญสิ้นไป
ในการมีชีวิตในโลกนี้และพวกเขาคิดว่าแท้จริงพวกเขาปฏิบัติความดีแล้ว
[18:105]
เขาเหล่านั้นคือบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา
และการพบปะกับพระองค์
ดังนั้นการงานของพวกเขาจึงไร้ผล
และในวันกิยามะฮ์เราจะไม่ให้มันมีค่าแก่พวกเขาเลย
[18:106]
นั่นแหละการตอบแทนของพวกเขาคือนรกญะฮันนัม
เนื่องจากพวกเขาปฏิเสธศรัทธา
และพวกเขายึดเอาโองการทั้งหลายของข้า
และบรรดาร่อซู้ลของข้า
เป็นที่ล้อเล่น
[18:107]
แท้จริง
บรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีสำหรับพวกเขานั้นคือสวนสวรรค์ชั้นฟิรเดาส
เป็นที่พำนัก
[18:108]
พวกเขาพำนักอย่างถาวรอยู่ในนั้น
พวกเขาไม่ประสงค์จะเปลี่ยนที่จากมัน
[18:109]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
หากว่าทะเลเป็นน้ำหมึกสำหรับบันทึกพจนารถของพระผู้เป็นเจ้าของฉัน
แน่นอน
ทะเลจะเหือดแห้งก่อนที่คำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าของฉันหมดสิ้นไป
และแม้ว่าเราจะนำมันเยี่ยงนั้นมาเป็นน้ำหมึกอีกก็ตาม
[18:110]
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
แท้จริง
ฉันเป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่งเยี่ยงพวกท่าน
มีวะฮีย์แก่ฉันว่าแท้จริง
พระเจ้าของพวกท่านนั้นคือพระเจ้าองค์เดียว
ดังนั้น
ผู้ใดหวังที่จะพบพระผู้เป็นเจ้าของเขา
ก็ให้เขาประกอบการงานที่ดี
และอย่างตั้งผู้ใดเป็นภาคีในการเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขาเลย