[19:39]
และเจ้าจงเตือนสำทับพวกเขาถึงวันแห่งความเสียใจเมื่อกิจการนั้นถูกตัดสิน
และพวกเขาอยู่ในหลงลืม
และพวกเขาไม่ศรัทธา
[19:40]
แท้จริง
เราเป็นผู้ครอบครองมรดกแผ่นดินและที่อยู่บนแผ่นดิน
และพวกเขาจะถูกนำกลับมายังเรา
[19:41]
และจงกล่าวถึง
(เรื่องของ)
อิบรอฮีมที่อยู่ในคัมภีร์
แท้จริงเขาเป็นผู้ซื่อสัตย์
เป็นนบี
[19:42]
และจงรำลึกถึงเมื่อเขากล่าวแก่บิดาของเขาว่า
โอ้พ่อจ๋า
ทำไมท่านจึงเคารพบูชาสิ่งที่ไม่ได้ยินและไม่เห็น
และไม่ให้ประโยชน์อันใดแก่ท่านเลย
?
[19:43]
โอ้พ่อจ๋า
แท้จริงความรู้ได้มีมายังฉันแล้ว
ซึ่งมิได้มีมายังท่าน
ดังนั้น จงเชื่อฟังปฏิบัติตามฉันเถิด
ฉันจะชี้แนะท่านสู่ทางที่ราบรื่น
[19:44]
โอ้พ่อจ๋า
!
อย่าเคารพบูชาชัยตอนเป็นอันขาด
แท้จริงชัยตอนนั้นมันดื้อรั้นต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานี
[19:45]
โอ้พ่อจ๋า
! แท้จริง
ฉันกลัวว่าการลงโทษจากพระผู้ทรงกรุณาปรานีจะประสบแก่ท่านแล้วท่านก็จะเป็นสหายของชัยตอน
[19:46]
เขา
(บิดา)
กล่าวว่า
เจ้ารังเกียจพระเจ้าทั้งหลายของฉันกระนั้นหรือ
โอ้อิบรอฮีมเอ๋ย
! หากเจ้าไม่หยุดยั้ง
(จากการตำหนิ)
แน่นอนฉันจะขว้างเจ้า
(ด้วยก้อนหิน)
และเจ้าจงไปให้พ้นจากฉันตลอดไป
[19:47]
เขา
(อิบรอฮีม)
กล่าวว่า
ขอความศานติจงมีแด่ท่าน
ฉันจะขออภัยโทษจากพระเจ้าของฉันให้แก่ท่าน
แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงเมตตากรุณาแก่ฉันมาก
[19:48]
และฉันจะปลีกตัวออกจากพวกท่านและสิ่งที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์
และฉันจะวิงวอนขอพระเจ้าของฉันหวังว่าด้วยการวิวอนขอต่อพระเจ้าของฉัน
จะไม่ทำให้ฉันได้รับความทุกข์
[19:49]
ครั้นเมื่อเขาปลีกตัวออกไปจากพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาเคารพบุชาอื่นจากอัลลอฮ์แล้ว
เราได้ให้แก่เขา
อิสหาก
และยะอ์กูบ
และแต่ละคนเราได้แต่งตั้งให้เป็นนบี
[19:50]
และเราได้ให้ความเมตตาของเราแก่พวกเขา
และเราได้ทำให้พวกเขาได้รับการกล่าวขวัญที่ดี
(ในหมู่มวลมนุษย์)
[19:51]
และจงกล่าวถึงเรื่องมูซาที่อยู่ในคัมภีร์แท้จริงเขาเป็นผู้ได้รับคัดเลือก
และเขาเป็นร่อซู้ลเป็นนบี