[40:8]
ข้าแต่พระเจ้าของเรา
และขอพระองค์ทรงให้พวกเขาได้เข้าในสวนสวรรค์หลากหลายอันสถาพร
ซึ่งพระองค์ได้ทรงสัญญาแก่พวกเขาพร้อมทั้งผู้กระทำความดีจากบรรพบุรุษของพวกเขา
และคู่ครองของพวกเขาและลูกหลานของพวกเขา
แท้จริงพระองค์ท่านนั้นเป็นผู้ทรงมีอำนาจ
ผู้ทรงปรีชาญาณ
[40:9]
และขอพระองค์ทรงคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากความชั่วทั้งหลาย
และผู้ใดที่พระองค์ทรงคุ้มครองให้พ้นจากความชั่วทั้งหลายในวันนั้นดังนั้นแน่นอนพระองค์ท่านทรงเมตตาแก่เขา
และนั่นคือมันเป็นความสำร็จอันใหญ่หลวง
[40:10]
แท้จริงบรรดาผู้ปฎิเสธศรัทธานั้นจะมีเสียงตะโกนบอกว่า
การเกลียดชังของอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าการเกลียดชังของพวกเจ้าต่อตัวของพวกเจ้าเอง
เมื่อพวกเจ้าถูกเรียกร้องสู่การศรัทธา
แล้วพวกเจ้าก็ได้ปฏิเสธศรัทธา
[40:11]
พวกเขากล่าวว่า
ข้าแต่พระเจ้าของเรา
พระองค์ท่านได้ทรงทำให้เราตายสองครั้ง
และพระองค์ท่านได้ทรงทำให้เรามีชีวิตสองครั้ง
ดังนั้นเราขอสารภาพต่อความผิดทั้งหลายของเราดังนั้นจะมีทางออก
(แก่เรา) ไหม?
[40:12]
นั่นก็เพราะว่า
แท้จริงเมืออัลลอฮ์พระองค์เดียวถูกกล่าวขึ้น
พวกเจ้าก็ปฎิเสธศรัทธา
และเมื่อหากให้มีการตั้งภาคีกับพระองค์พวกเจ้าก็ศรัทธา
ดังนั้น การตัดสินชี้ขาดเป็นสิทธิของอัลลอฮ์
ผู้ทรงสูงส่ง
ผู้ทรางยิ่งใหญ่
[40:13]
และจะไม่มีใครใคร่ครวญนอกจากผู้
สำนึกตัว
[40:14]
ดังนั้นจงวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์
โดยเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจในศาสนาต่อพระองค์
แม้ว่าพวกปฎิเสธศรัทธาจะเกลียดชังก็ตาม
[40:15]
ผู้ทรงตำแหน่งอันสูงเจ้าแห่งบัลลังก์ทรงส่งวะฮีย์ยฺตามพระบัญชาของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากปวงบ่าวของพระองค์เพื่อเตือนให้รำลึกถึงวันแห่งการพบปะร่วมกัน
(วันกิยามะฮ์)
[40:16]
วันที่พวกเขาจะปรากฎตัวออกมา
ไม่มีสิ่งใดของพวกเขาจะซ่อนเร้นไปจากอัลลอฮ์
อำนาจในวันนี้เป็นของผู้ใดเล่า
? แน่นอนมันเป็นของอัลลอฮ์
ผู้ทรงเอกะผู้ทรงพิชิตโดยเด็ดขาด