[48:10]
แท้จริงบรรดาผู้ที่ให้สัตยาบันกับเจ้านั้นเสมือนกับว่าพวกเขาได้ให้สัตยาบันกับอัลลอฮ์พระหัตถ์ของอัลลอฮ์ทรงอยู่เหนือมือของพวกเขาฉะนั้นผู้ใดทำลาย
(สัตยาบัน)
เสมือนกับว่าเขาทำลายตัวของเขาเองส่วนผู้ใดปฏิบัติตามสัญญาที่เขาได้มีไว้กับอัลลอฮ์โดยครบถ้วนพระองค์ก็จะทรงตอบแทนรางวัลอันใหญ่หลวงแก่เขา
[48:11]
ชาวอาหรับชนบทที่เหลืออยู่ในเมืองจะกล่าวแก่เจ้าว่าทรัพย์สินของเราและครอบครัวของเราทำให้เรามีธุระยุ่งอยู่
ดังนั้นได้โปรดขออภัยให้แก่เราด้วย
พวกเขากล่าวด้วยลิ้นของพวกเขาโดยไม่มีอะไรในหัวใจของพวกเขา
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดใครเล่าจะมีอำนาจอันใดที่จะป้องกันพวกเจ้าจากอัลลอฮ์หากพระองค์ทรงประสงค์ให้ความทุกข์แก่พวกเจ้า
หรือพระองค์ทรงประสงค์จะให้ประโยชน์แก่พวกเจ้า
แต่ว่าอัลลอฮ์ทรงตระหนักยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ
[48:12]
หามิได้พวกเจ้าคิดว่าอัลร่อซู้ลและบรรดามุอ์มินผู้ศรัทธาจะไม่กลับไปยังครอบครัวของพวกเขาเป็นอันขาดและนั่นได้ถูกทำให้เป็นที่เพริศแพร้วในจิตใจของพวกเจ้าและพวกเจ้าได้คิดร้ายและพวกเจ้าเป็นหมู่ชนที่วิบัติ
[48:13]
และถ้าผู้ใดมิได้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์
แท้จริงเราได้เตรียมไฟที่ลุกโชติช่วงไว้สำหรับผู้ปฏิเสธศรัทธา
[48:14]
และอำนาจเด็ดขาดแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้นเป็นของอัลลอฮ์
พระองค์จะทรงอภัยแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์
และจะทรงลงโทษผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์
และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัย
ผู้ทรงเมตตาเสมอ
[48:15]
บรรดาผู้ที่เหลืออยู่ในเมืองจะกล่าวว่า
เมื่อพวกท่านออกเดินทางไปยังกองทรัพย์เชลย
(ที่ค็อยบัร)
เพื่อไปยึดเอามา
ก็จงปล่อยให้พวกเราออกติดตามพวกท่านไปด้วย
พวกเขาประสงค์ที่จะเปลี่ยนคำกล่าวของอัลลอฮ์
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด
พวกท่านจะติดตามพวกเราไปไม่ได้เป็นอันขาด
เพราะอัลลอฮ์ได้ตรัสไว้ก่อนแล้ว
พวกเขาก็จะกล่าวอีกว่า
หามิได้พวกท่านอิจฉาพวกเรา
เปล่าเลยพวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลยนอกจากเพียงเล็กน้อย