[49:5]
และหากว่าพวกเขาอดทนไว้จนกว่าเจ้าจะออกมาหาพวกเขาแล้ว
แน่นอนมันย่อมเป็นการดีสำหรับพวกเขา
และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษ
ผู้ทรงเมตตาเสมอ
[49:6]
โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย
!
หากคนชั่วนำข่าวใดๆ
มาแจ้งแก่พวกเจ้า
พวกเจ้าก็จงสอบสวนให้แน่ชัด
หาไม่แล้วพวกเจ้าก็จะก่อเคราะห์กรรมแก่พวกหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
แล้วพวกเจ้าจะกลายเป็นผู้เสียใจในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไป
[49:7]
และพวกเจ้าพึงรู้เถิดว่า
ในหมู่พวกเจ้านั้นมีร่อซู้ลของอัลลอฮ์อยู่
หากเขา
(มุฮัมมัด)
เชื่อฟังพวกเจ้าในส่วนใหญ่ของกิจการแล้ว
แน่นอนพวกเจ้าก็จะลำบากกัน
แต่อัลลอฮ์ทรงให้การศรัทธาเป็นที่รักแก่พวกเจ้า
และทรงให้การปฏิเสธศรัทธา
และความชั่วช้าและการฝ่าฝืนเป็นที่น่าเกลียดชังแก่พวกเจ้า
ชนเหล่านั้นคือพวกที่ดำเนินอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง
[49:8]
มันเป็นคุณธรรมและความโปรดปรานจากอัลลอฮ์
และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้
ผู้ทรงปรีชาญาณ
[49:9]
และหากมีสองฝ่ายจากบรรดาผู้ศรัทธาทะเลาะวิวาทกัน
พวกเจ้าก็จงไกล่เกลี่ยระหว่างทั้งสองฝ่าย
หากฝ่ายหนึ่งในสองฝ่ายนั้นละเมิดอีกฝ่ายหนึ่ง
พวกเจ้าก็จงปรามฝ่ายที่ละเมิดจนกว่าฝ่ายนั้นจะกลับสู่พระบัญชาของอัลลอฮ์
ฉะนั้นหากฝ่ายนั้นกลับ
(สู่พระบัญชาของอัลลอฮ์)
แล้ว
พวกเจ้าก็จงประนีประนอมระหว่างทั้งสองฝ่ายด้วยความยุติธรรม
และพวกเจ้าจงให้ความเที่ยงธรรม
(แก่ทั้งสองฝ่าย)
เถิด แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรักใคร่บรรดาผู้ให้ความเที่ยงธรรม
[49:10]
แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นพี่น้องกัน
ดังนั้นพวกเจ้าจงไกล่เกลี่ยประนีประนอมกันระหว่างพี่น้องทั้งสองฝ่ายของพวกเจ้า
และจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด
หวังว่าพวกเจ้าจะได้รับความเมตตา
[49:11]
โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย!
ชนกลุ่มหนึ่งอย่าได้เยาะเย้ยชนอีกกลุ่มหนึ่ง
บางทีชนกลุ่มที่ถูกเยาะเย้ยนั้นจะดีกว่าชนกลุ่มที่เยาะเย้ย
และสตรีกลุ่มหนึ่งอย่าได้เยาะเย้ยจะดีกว่ากลุ่มที่เยาะเย้ย
และพวกเจ้าอย่าได้ตำหนิตัวของพวกเจ้าเอง
และอย่าได้เรียกกันด้วยฉายาที่ไม่ชอบ
ช่างเลวทรามจริง
ๆ ที่บรรดาผู้ศรัทธาจะเรียกกันว่าเป็นผู้ฝ่าฝืน
ภายหลังจากที่ได้มีการศรัทธากันแล้ว
และผู้ใดไม่สำนึกผิด
ชนเหล่านั้นคือบรรดาผู้อธรรม