[3:53]
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์
พวกข้าพระองค์ศรัทธาแล้วต่อสิ่งที่พระองค์ได้ประทานลงมา
และพวกข้าพระองค์ก็ได้ปฏิบัติตาม
ร่อซู้ลแล้ว
โปรดทรงบันทึกพวกข้าพระองค์ร่วมกับบรรดาพวกที่กล่าวปฏิญาณยืนยันทั้งหลายด้วยเถิด
[3:54]
และพวกเขาได้วางแผน
(คือ
พวกยิวที่ปฏิเสธศรัทธาต่อท่านนบีอีซา
ได้วางแผนที่จะกำจัดท่าน)
และอัลลอฮ์
ก็ทรงวางแผนด้วย
(คือวางแผนที่จะปกป้องท่านนบี
อีซาให้พ้นจากการทำร้ายของพวกเขา)
และอัลลอฮ์
นั้นเป็นผู้ทรงวางแผนที่ดีเยี่ยม
[3:55]
จงลำลึกถึงขณะที่อัลลอฮ์
ตรัสว่าโอ้อีซา!
ข้าจะเป็นผู้รับเจ้าไปพร้อมด้วยชีวิตและร่างกายของเจ้า
และจะเป็นผู้ยกเจ้าขึ้นไปยังข้าและจะเป็นผู้ที่ทำให้เจ้าบริสุทธิ์
พ้นจากบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา
และจะเป็นผู้ให้บรรดาที่ปฏิบัติตามเจ้าเหนือผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย
จนกระทั่งถึงวันกิยามะฮ์
แล้วยังข้านั้นคือการกลับไปของพวกเจ้า
แล้วข้าจะตัดสินระหว่างพวกเจ้า
ในสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกัน
[3:56]
ส่วนบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้น
ข้าจะลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรงทั้งในโลกนี้และปรโลก
และจะไม่มีบรรดาผู้ช่วยเหลือใด
สำหรับพวกเขา
[3:57]
และส่วนบรรดาผู้ศรัทธา
และประกอบสิ่งที่ดีทั้งหลายนั้น
พระองค์จะทรงตอบแทนแก่พวกเขาโดยครบถ้วน
ซึ่งรางวัลของพวกเขาและอัลลอฮ์
นั้นไม่ทรงชอบบรรดาผู้อธรรม
[3:58]
ดังกล่าวนั้นแหละ
เราอ่านมันให้เจ้าฟัง
อันได้แก่โองการต่างๆ
และคำเตือนรำลึกที่รัดกุมชัดเจน
[3:59]
แท้จริงอุปมาของอีซานั้น
ดั่งอุปมัยของอาดัม
พระองค์ทรงบังเกิดเขาจากดิน
และได้ทรงประปาศิตแก่เขาว่าจงเป็นขึ้นเถิด
แล้วเขาก็เป็นขึ้น
[3:60]
ความจริง
นั้นมาจากพระเจ้าของเจ้า
(มุฮัมมัด)
ดังนั้นเจ้าจงอย่าเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้สงสัยเป็นอันขาด
[3:61]
ดังนั้นผู้ใดที่โต้เถียงเจ้ามนเรื่องของเขา
(อีซา)
หลังจากที่ได้มีความรู้มายังเจ้าแล้ว
ก็จงกล่าวเถิดว่า
ท่านทั้งหลายจงมาเถิด
เราก็จะเรียกลูกๆของเรา
และลูกของพวกท่าน
และเรียกบรรดาผู้หญิงของเรา
และบรรดาผู้หญิงของพวกท่าน
และตัวของพวกเรา
และตัวของพวกท่านแล้วเราก็จะวิงวอนกัน
(ต่ออัลลอฮ์)
ด้วยความนอบน้อม
โดยที่เราจะขอให้อนัต
(คือการขับไล่ให้ห่างไกลจากเราะฮมัตของบอัลลอฮ์)
ของอัลลอฮ์พึงประสบแก่บรรดาผู้ที่พูดโกหก