[4:106]
และเจ้าจงขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์เถิด
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ
ผู้ทรงเมตตาเสมอ
[4:107]
และเจ้าจงอย่าโต้เถียงแทนบรรดาผู้ที่บิดพลิ้วต่อตัวของพวกเขาเองเลย
แท้จริงอัลลอฮ์ไม่ทรงชอบผู้ที่เคยบิดพลิ้ว
ที่เคยกระทำบาป
[4:108]
พวกเขาจะปกปิดให้พ้นจากมนุษย์ได้แต่พวกเขาจะปกปิดให้พ้นจากมนุษย์ได้
แต่พวกเขาจะปกปิดให้พ้นจากอัลลอฮ์นั้นไม่ได้
โดยที่พระองค์ร่วมอยู่ด้วยกับพวกเขาขณะที่พวกเขาวางแผนกันในเวลากลางคืน
ซึ่งคำพูดที่พระองค์ไม่ทรงพอพระทัย
และอัลลอฮ์นั้นทรงล้อมไว้เสมอ
ซึ่งสิ่งที่พวกเขากระทำกัน
[4:109]
พึงรู้เถิดว่า
พวกเจ้านี้แหละได้เถียงแทนพวกเขากันในชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้
แล้วใครเล่าที่จะเถียงกับอัลลอฮ์แทนพวกเขาในวันกิยามะฮ์
หรือว่าใครเล่าจะเป็นผู้รับมอบหมายให้คุ้มครองรักษา
[4:110]
และผู้ใดที่กระทำความชั่วหรืออธรรมแก่ตัวเอง
แล้วเขาขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์
เขาก็จะพบว่าอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้
ทรงปรีชาญาณ
[4:111]
และผู้ใดที่แสวงหาบาปกรรมไว้
แท้จริงแล้วเขาแสวงหามันไว้ให้เป็นภัยแก่ตัวเขาเองเท่านั้น
และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้
ทรงปรีชาญาณ
[4:112]
และผู้ใดที่แสวงหาความผิดหรือบาปกรรมไว้
แล้วก็โยนบาปกรรมนั้นให้แก่ผู้บริสุทธิ์
แน่นอนเขาได้แบกความเท็จและบาปกรรมอันชัดเจนไว้
[4:113]
และหากไม่มีความกรุณาของอัลลอฮ์และความเมตตาของพระองค์แก่เจ้าแล้ว
แน่นอนกลุ่มหนึ่งจากพวกเขาก็มุ่งแล้วที่จะให้เจ้าหลงผิดไป
แต่พวกเขาจะไม่ทำให้ใครหลงผิดไปได้
นอกจากตัวของพวกเขาเองเท่านั้น
และพวกเขาก็จะไม่ทำอันตรายแก่เจ้าได้แต่อย่างใด
และอัลลอฮ์ได้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาแก่เจ้า
และความเข้าใจในบทบัญญัติแห่งคัมภีร์นั้นด้วย
และได้ทรงสอนเจ้าในสิ่งที่เจ้าไม่เคยรู้มาก่อน
และความกรุณาของอัลลอฮ์ที่มีแก่เจ้านั้นใหญ่หลวงนัก